นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการ Travel Bubble ระบุว่า เมื่อเศรษฐกิจต้องเดินหน้า การเปิดประเทศต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้ กำลังพิจารณาเรื่องTravel Bubble ซึ่งเริ่มบนพื้นฐานความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก การพิจารณาเรื่องนี้ ภาครัฐเลือกประเทศที่มีความปลอดภัยสูง มีมาตรฐานการควบคุมโรคที่ดี ให้เซ็น MOU อาจจะให้นักธุรกิจ วิศวกร ครูโรงเรียนนานาชาติ และคนที่ต้องเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ ได้สิทธิ์เข้ามาก่อน และจะให้ตรวจสุขภาพก่อนขึ้นเครื่อง และหลังลงเครื่อง ก่อนมาต้องทำประกันสุขภาพ รวมถึงต้องระบุจำนวนวันที่อยู่เมืองไทย และสถานที่ที่จะไป สามารถตามตัวได้ ตราบใดที่ไม่มีวัคซีน มาตรการย่อมเข้มข้น และเมื่อเดินหน้าไปแล้ว ถ้าพบความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชน ก็จะพิจารณา หาทางปรับเปลี่ยนต่อไป
เศรษฐกิจไทยสะดุดเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แต่พอจะเห็นสัญญาณที่ดี เมื่อหลายประเทศ ได้เข้ามาหารือกับไทย เพื่อขอเดินทางเข้ามาประกอบกิจกรรม ประเทศไทยได้รับความไว้ใจจากนานาชาติ จากระบบสาธารณสุขที่ดี ในอดีตเราเคยรักษาชาวต่างชาติด้วยเพราะความเป็นเพื่อนร่วมโลก ทำให้รัฐบาลจีนแสดงความขอบใจและวันที่เราต้องการยาก็เป็นทางจีนที่สนับสนุนเรื่องนี้กับเรา เราเคยมียาระดับหลักพันเม็ด แต่วันนี้เรามียาหลายแสนเม็ด จากที่เคยต้องใช้กับผู้ป่วยอาการหนักเท่านั้น ทุกวันนี้เราสามารถใช้ยาตัวดังกล่าวได้โดยไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยอาการทรุด
ต่อข้อซักถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่หลายพรรคเริ่มมีการขยับปรับเปลี่ยนผู้บริหารพรรค ไปจนถึงกระแสข่าวเรื่องปรับ ครม.นายอนุทิน กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวการเมือง เป็นอย่างไร ตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะมุ่งทำแต่งาน ซึ่งมีเรื่องมาให้ต้องจัดการและรับมือเยอะมาก ส่วนตัว เชื่อเสมอว่า หากทำงานหนัก ทำงานมีประสิทธิภาพ ประชาชนจะเป็นคนสนับสนุนเอง