นางอรนุช โอสถานนท์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุนว่า ที่ประชุมมีมติให้ใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) สินค้าบล็อกแก้วชนิดใสที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน โดยให้เรียกเก็บอากรเอดี 5.10% ของราคาส่งออก (ซีไอเอฟ) กับสินค้าของบริษัท Dezhou Zhenhua Decoration Glass และเรียกเก็บ 82.78% สำหรับผู้ผลิตและผู้ส่งออกรายอื่น โดยให้เรียกเก็บเป็นเวลา 5 ปี นับแต่ประกาศของคณะกรรมการฯมีผลบังคับใช้
พร้อมกันนั้น มีมติให้ยุติการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าสังกะสีออกไซด์จากจีน เพราะไม่พบความเสียหายอันเกิดจากการทุ่มตลาดต่ออุตสาหกรรมภายในของไทย แต่หากในระยะต่อไปอุตสาหกรรมภายในมีข้อมูลหลักฐานว่าได้รับความเสียหายจากการทุ่มตลาดก็สามารถยื่นคำขอให้เปิดไต่สวนได้
รวมถึงให้ยุติการพิจารณาใช้มาตรการเอดีกับสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนสูงจากจีน อินเดีย และอาฟริกาใต้ เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพราะอุตสาหกรรมของไทยไม่สามารถผลิตสินค้าดังกล่าวที่มีคุณภาพ และปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ได้
นอกจากนี้ ยังมีมติให้เปิดทบทวนอัตราอากรเอดี สินค้า 2 รายการคือ เหล็กแผ่นรีดร้อนของบริษัท Pohang Iron and Steel จากสาธารณรัฐเกาหลี ตามคำขอของบริษัท และบล็อกแก้วชนิดใสของบริษัท P.T.Mulia Glass จากอินโดนีเซียตามคำขอของอุตสาหกรรมภายใน หลังจากที่ไทยใช้มาตรการเอดีกับสินค้าทั้ง 2 รายการได้แล้วครบ 1 ปี ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะออกประกาศเปิดการทบทวนและดำเนินกระบวนการทบทวนให้แล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ และก่อนหน้านี้ ได้เปิดทบทวนให้กับบริษัทของญี่ปุ่น และยูเครนแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--