น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กู้เงินเพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องหรือเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการทั่วไป จำนวน 2,000 ล้านบาท ภายใต้แผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2563 (ปรับปรุงครั้งที่ 1) โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563
เนื่องจากการเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการมาตรการเร่งด่วนในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย โดยดำเนินมาตรการช่วยเหลือเป็นเวลา 3 เดือน (เมษายน - มิถุนายน 2563) ดังนี้
1) พักชำระหนี้ค่าเช่าซื้อ สำหรับลูกค้าเช่าซื้ออาคาร อาคารพร้อมที่ดิน และที่ดิน (สัญญาเช่าซื้อจะถูกขยายออกไปอีก 3 เดือน)
2) ปลอดค่าเช่า สำหรับลูกค้า สัญญาเช่าอาคาร อาคารพร้อมที่ดินและที่ดิน ลูกค้าแผงตลาดรายย่อยที่ทำสัญญาตรงกับการเคหะแห่งชาติ และผู้เช่าที่ทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าเหมาอาคาร
3) ลดค่าเช่า ร้อยละ 50 สำหรับผู้เช่ารายย่อยในพลาซ่าหรือตลาดเช่าเหมา
4) พักชำระเงินมัดจำ เงินจอง (เงินดาวน์) สำหรับลูกค้าสัญญาจะซื้อจะขายหรือสัญญาจอง
"มาตรการช่วยเหลือช่วงโควิดดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้และสภาพคล่องทางการเงินของการเคหะแห่งชาติทั้งการขายโครงการ การรับชำระค่าเช่า และค่าเช่าซื้อ ที่ต่ำกว่าแผนอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น เพื่อให้การเคหะแห่งชาติมีสภาพคล่องเพียงพอรองรับการบริหารงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงักในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินดังกล่าว ทั้งนี้ การเคหะฯ จะทำการกู้เฉพาะวงเงินที่จำเป็นเท่านั้น" น.ส.รัชดา กล่าว