ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.96 แกว่งแคบจากช่วงเช้า หลังคลายกังวลสถานการณ์สหรัฐ-จีน ตลาดรอประชุมกนง.-ตัวเลขส่งออกพรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 23, 2020 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 30.96 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 31.00/02 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 30.945-31.04 บาท/ดอลลาร์

"ช่วงเช้าตลาด Sensitive จากข่าวระหว่างสหรัฐฯกับจีน แต่หลังจากมีการแก้ข่าวตลาดก็เริ่มนิ่งๆ และเหวี่ยงในกรอบ แคบ"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่าวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.90-31.10 บาท/ดอลลาร์ ตลาดรอดูตัวเลขยอดขายบ้าน ใหม่สหรัฐฯ, การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.09 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 106.89/92 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1284 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1245/1249 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,356.43 จุด เพิ่มขึ้น 4.25 จุด, +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 49,101.67 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 752.48 ลบ.(SET+MAI)
  • ผู้อำนวยการ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) คาดว่า ภาพรวม
การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของทั้งประเทศ (R&D) ในปี 63 จะปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 1.66 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 1.09%
ของ GDP เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนได้รับผลกระทบจนอาจจำเป็นต้องลดงบประมาณ
ด้าน R&D ลง ส่วนภาครัฐนั้นไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากได้รับการจัดสรรงบประมาณเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 64
  • เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานความคืบหน้าการวิเคราะห์และกลั่นกรองแผนงาน
หรือโครงการที่ 3 ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผล
กระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 400,000 ล้านบาทว่า จากข้อมูลล่าสุดวันที่ 22 มิ.
ย.63 มีข้อเสนอโครงการในรอบที่ 1 รวมทุกแผนงาน จำนวน 43,851 ข้อเสนอ วงเงินกว่า 1.36 ล้านล้านบาท ซึ่งแผนงาน 3.2 มีข้อ
เสนอโครงการมากที่สุด 42,405 โครงการ ตามมาด้วยแผนงาน 3.1 อีก 1,259 โครงการ
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ระบุว่า "ไทยเที่ยวไทย" มีแนวโน้มดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลังหลังการ
คลายล็อกดาวน์ในประเทศและได้มีแพคเก็จกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ สวนทางกับ "ไทยเที่ยวนอก" ที่ยังคงมีความเสี่ยงจากการ
ระบาดของโควิด-19 พร้อมแนะหากชวน "ไทยเที่ยวนอก" เบนมาเที่ยวไทยแทนทั้งหมดจะช่วยชดเชยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้
79%
  • อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การฟื้นการเจรจา FTA ไทย-อียูที่หยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2557 นั้น คณะ
มนตรีแห่งอียูด้านการต่างประเทศได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ต.ค.62 ให้กระชับความสัมพันธ์กับไทยให้แน่นแฟ้นขึ้น ซึ่งเอกสารฯ ได้ตั้งเป้าให้อียู
ลงนามความตกลงว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ (Partnership and Co-operation Agreement) ภายในปี 64
  • นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด "รวมไทยสร้างชาติ" ซึ่งจะนำไปบรรจุไว้ในโครงสร้าง
ยุทธศาสตร์ชาติว่า การรวมไทยสร้างชาติ คือการรวมทุกกลุ่มมาร่วมกันทำงาน เพื่อขับเคลื่อนแผนงานและโครงการต่างๆ ให้เกิดประโยชน์
กับประชาชนในทุกด้าน และที่สำคัญต้องยึดโยงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ด้วย
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ออกพันธบัตรในฮ่องกง วงเงิน 1 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
โดยมีอายุไถ่ถอน 6 เดือน ที่อัตราดอกเบี้ย 2.21%

แบงก์ชาติจีนเปิดเผยว่า การออกพันธบัตรครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ เช่น ธนาคาร ธนาคารกลาง และกองทุนในสหรัฐ ยุโรป เอเชีย รวมถึงประเทศและดินแดนอื่นๆ เช่นเดียวกับองค์กรทางการเงินระหว่าง ประเทศอีกหลายแห่ง โดยมียอดประมูลซื้อรวมทั้งสิ้นเกิน 3.4 หมื่นล้านหยวน ซึ่งมากกว่ามูลค่าที่ออกจำหน่ายถึง 3.4 เท่า

  • สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ญี่ปุ่นได้ให้เวลาอังกฤษเพียง 6 สัปดาห์ในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างกัน หลังอังกฤษแยก
ตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์สันในการเจรจาทำข้อตกลงการค้า
อย่างรวดเร็วที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ
  • บริษัท CBB International เปิดเผย China Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจีนบ่งชี้ว่า
เศรษฐกิจจีนหดตัวลงในไตรมาส 2 ของปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยใน
ช่วงไตรมาสแรกซึ่งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ