นักเศรษฐศาสตร์จีนออกมาเตือนว่า ค่าเงินหยวนที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องในทิศทางเดียว อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและการเงิน รวมทั้งมองว่าค่าเงินหยวนแข็งค่าต่อเนื่องอย่างรวดเร็วนับแต่ต้นปีเป็นต้นมา เกิดจากแรงกดดันภายนอก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงปีแรกหลังจากที่ธนาคารกลางจีน ยกเลิกการผูกติดเงินหยวนกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 และเชื่อมโยงเงินหยวนกับตระกร้าสกุลเงินต่างประเทศต่างๆ
ทาน ย่า หลิง นักวิเคราะห์ประจำธนาคารแบงค์ ออฟ ไชน่า กล่าวว่า แรงขับเคลื่อนให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นในขณะนั้นได้แก่ เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และกระบวนการในภาคการเงิน ขณะที่ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด กล่าวว่า การที่เงินหยวนแข็งค่าจะเป็นประโยชน์สำหรับจีน
ทาน กล่าวว่า พวกเขามุ่งเน้นด้านราคาค่าเงินมากเกินไป แต่กลับเพิกเฉยปัญหาด้านโครงสร้างของเศรษฐกิจและภาคการเงินในจีน จีนจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมากเมื่อค่าเงินหยวนแข็งค่าต่อไปในระยะยาว หากรัฐบาลประสบความล้มเหลวที่จะพัฒนาคุณภาพของเศรษฐกิจให้สนับสนุนค่าเงินหยวน และเรียกร้องให้รัฐบาลตื่นตัวและป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้
นอกจากนี้ เธอแสดงความวิตกว่า ค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลให้ภาคการผลิตที่มีค่าแรงถูกเป็นปัจจัยหนุนจะต้องสูญเสียกำไรหรือมีผลกำไรลดลง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติจะได้ผลกำไรเต็มที่จากแรงงานราคาถูกในจีน และกลายเป็นผู้ครอบครองเศรษฐกิจจีน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--