ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลเยนและยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ (20 ก.ค.) แต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงนโยบายกลางปีต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภาคองเกรสเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
นายเบอร์นันเก้เน้นเปิดเผยว่า เฟดกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อและภาวะการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐจะฉุดให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของเขาแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินมากนัก
ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.18 น.ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 122.15 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 122.01 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.3801 ดอลลาร์ต่อยูโร ลดลงจากระดับ 1.3804 ดอลลาร์ต่อยูโร
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยกันไปเมื่อวานนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 11.9% ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 11.0% โดยระดับการขยายตัวในไตรมาสแรกของปี 2550 นั้นอยู่ที่ 11.1% ยังเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนทำธุรกรรม carry trade อย่างต่อเนื่อง
โดยข้อมูลดังกล่าวยังหนุนให้ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ในรอบ 18 ปี ที่ 0.8810 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย และแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูดสุดเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนตั้งแต่ต้นปี 2533
นอกจากนี้ เอ็นเอบี แคปิตอลเปิดเผยว่า ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาโลหะอุตสาหกรรมที่ปรับตัวสูงขึ้นอีกด้วย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--