นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกร.สรุปมาตรการเพื่อรับมือและแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าที่จะเสสนอให้รัฐบาลพิจารณาในเร็ว ๆ นี้ โดยแบ่งเป็น 7 มาตรการระยะสั้น และอีก 4 มาตรการในระยะกลางถึงระยะยาว
ในวันนี้ กกร.จะนำข้อเสนอดังกล่าวให้นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ พิจารณาในการประชุมร่วมกันวันนี้ และเตรียมนำเสนอให้กับพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า มาตรการระยะสั้น 7 ข้อ ประกอบด้วย เสนอให้บริษัทเอกชนไทยถือครองเงินตราต่างประเทศได้ไม่กำหนดระยะเวลา, ให้บุคคลธรรมดาถือเงินตราต่างประเทศไม่จำกัดเวลาเช่นกัน รวมทั้ง เพิ่มวงเงินถือครองเงินดอลลาร์ได้มากกว่า 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ, เปิดโอกาสให้เอกชนสามารถใช้จ่ายและชำระสินค้าระหว่างกันเป็นเงินตราต่างประเทศได้
นอกจากนี้ ยังขอให้ภาครัฐเร่งคืนภาษีให้แก่ผู้ส่งออกตามมาตรา 19 ทวิ, ให้รัฐบาลผลักดันให้รัฐวิสาหกิจอาศัยช่วงเงินบาทแข็งค่าเร่งชำระหนี้ต่างประเทศ, การให้รัฐวิสาหกิจสั่งนำเข้าสินค้ามาสต็อกไว้ล่วงหน้า และการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อย(SME)ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าเงินบาท
ส่วนมาตรการระยะกลาง จนถึงระยะยาว 4 ข้อ ประกอบด้วย เสนอให้ภาครัฐจัดตั้งกองทุนเพื่อดูแลค่าเงินบาท โดยบริหารจัดการเงินดอลลาร์ส่วนเกินที่ไหลเข้าประเทศ, สร้างแรงจูงใจและลดเงื่อนไขในการให้เอกชนไปลงทุนในต่างประเทศ, ให้ภาคเอกชนร่วมกับภาครัฐปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่มที่มีปัญหา และสุดท้ายให้รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการเมกะโปรเจ็คต์เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับคืนมา
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--