รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยชื่นชมการทำงานของรัฐบาลไทยในการใช้มาตรการสาธารณสุขที่เข้มข้น ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 และควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังสามารถกระตุ้นภาคเศรษฐกิจให้ดำเนินการได้ต่อเนื่อง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนและภาคการผลิต ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐฯ พร้อมยืนยันที่จะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสานต่อการลงทุนในไทย โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจทั้งด้านการค้าและการลงทุน
ด้านนายสมคิด กล่าวว่า ไทยพร้อมร่วมมือและสนับสนุนการทำงานของเอกอัครราชทูตอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันมายาวนานให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ท่ามกลางความท้าทายในการจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นวิกฤตที่สามารถพลิกเป็นโอกาสในการวางแผนเพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือและแลกเปลี่ยนการลงทุนร่วมกันได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าจะร่วมกันผลักดันความร่วมมือทุกมิติ โดยพร้อมที่จะเร่งฟื้นฟูภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย รวมทั้งเห็นพ้องถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคเอกชน เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมทางการแพทย์ การพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตร (Smart Farmer) ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและนวัตกรรม
โดยรองนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ผู้ประกอบการสหรัฐฯ ร่วมลงทุนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการลงทุนของไทยและกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีศักยภาพ