นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ไทยส่งออกน้ำมันปาล์มดิบในช่วงมกราคม-พฤษภาคม 2563 รวม 21,251 ตัน มีความต้องการใช้ในประเทศด้านบริโภค และอุตสาหกรรมอื่น 482,454 ตัน และใช้ด้านน้ำมันไบโอดีเซล 551,956 ตัน สำหรับเดือนพฤษภาคม มีการใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 61.59 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. 3.22 ล้านลิตร/วัน
สถานการณ์ไบโอดีเซล (B100): ราคาน้ำมันไบโอดีเซลอ้างอิงเฉลี่ย (29 มิ.ย.- 5 ก.ค. 63) อยู่ที่ 25.03 บาทต่อลิตร ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.90 บาทต่อลิตร
ราคาผลปาล์มน้ำมัน (ช่วงวันที่ 22 – 26 มิ.ย. 63) เฉลี่ยอยู่ที่ 2.90 – 3.30 บาทต่อกก. โดยราคาน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 20.37 – 21.75 บาทต่อกก. ปริมาณสต๊อกคงเหลือหักน้ำมันปาล์มดิบของ กฟผ. ณ สิ้นเดือน พ.ค. ประมาณ 374,353 ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. 91,842 ตัน
ส่วนสต็อกน้ำมันไบโอดีเซล อยู่ที่ 45,544 ตัน สำหรับการผลิตปาล์มน้ำมัน ปี 63 มีเนื้อที่ให้ผล 5.81 ล้านไร่ ผลผลิต 17.8 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 3.063 ล้านตันต่อไร่ โดยในช่วงม.ค.-พ.ค. 63 อัตราสกัดน้ำมันเฉลี่ยร้อยละ 16.54 เปอร์เซ็นน้ำมันที่ลดลง เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง การส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ รวม 21,251 ตัน ความต้องการใช้ในประเทศ ด้านบริโภค และอุตสาหกรรมอื่น 482,454 ตัน และใช้ด้านน้ำมันไบโอดีเซล 551,956 ตัน
เดือนพ.ค. 63 มีการใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 61.59 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. ประมาณ 3.22 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากเริ่มมีการเปิดเมือง ปริมาณการใช้ B100 ในเดือน พ.ค. ประมาณ 5.12 ล้านลิตร/วัน คาดการณ์การใช้น้ำมันดีเซลในเดือนมิ.ย. จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือน พ.ค. 63
สำหรับสถานการณ์เอทานอล โดยราคาเอทานอลอ้างอิง กรกฎาคม 2563 อยู่ที่ 23.28 บาทต่อลิตร โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน เนื่องจากเป็นราคาซื้อขายแบบระยะยาวของผู้ค้า จากการผ่อนคลายมาตรการ "ล็อคดาวน์" ส่งผลให้มีการใช้รถยนต์เพิ่มมากขึ้น ทำให้การใช้เอทานอลในช่วงวันที่ 1-17 พ.ค. 63 ปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 3.49 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.57 ล้านลิตรต่อวัน