นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เผยเตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องหารือแนวทางแก้ปัญหากรณีองค์กรพิทักษ์สัตว์ (People of the Ethical Treatment of Animals: PETA) ออกมาต่อต้านการส่งออกมะพร้าวและผลิตภัณฑ์มะพร้าวเนื่องจากใช้แรงงานลิงที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ ซึ่งเกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและเข้าใจผิด
โดยประเด็นปัญหาที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้คือมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกิดขึ้นว่าประเทศไทยมีการใช้แรงงานลิงในการเก็บมะพร้าว เรื่องนี้ซึ่งได้เคยปรากฏเป็นประเด็นขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ สุดท้ายก็ชี้แจงทำความเข้าใจและช่วงนี้ก็เกิดประเด็นนี้ขึ้นมาอีก ก่อนหน้านี้เคยหารือกับผู้ประกอบการแปรรูปกะทิและผลผลิตอาหารสำเร็จรูปมาแล้วได้รับการชี้แจงว่าเรื่องการใช้ลิงเก็บมะพร้าวนั้นส่วนใหญ่ประเด็นในเรื่องทางวัฒนธรรมวิถีชีวิตและการท่องเที่ยวมากกว่า แต่สำหรับในเรื่องของการใช้ลิงเก็บมะพร้าวเพื่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมเกือบจะเรียกได้ว่าไม่มีปรากฎแล้ว
"ภาพลิงเก็บมะพร้าวที่ใช้ทางการท่องเที่ยว วิถีชีวิตอาจจะยังปรากฏในคลิปอยู่และทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความเข้าใจคาดเคลื่อน วันพุธ (8ก.ค.) ที่จะถึงนี้ ผมได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเชิญผู้ผลิตกะทิและผู้ผลิตแปรรูปผลผลิตจากมะพร้าวมาหารือกันหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อจะได้หาแนวทางร่วมกันในการที่จะชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศผู้นำเข้าที่ยังสงสัยอยู่ รวมทั้งในองค์การพิทักษ์สัตว์ที่ต้องการข้อมูล ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะได้ข้อสรุปอีกครั้งหนึ่งว่ามาจากประชาสัมพันธ์ที่แจ้งทำความเข้าใจร่วมกันในรูปแบบไหนอย่างไร และมีแผนจะเชิญทูตที่ประจำอยู่ในประเทศไทยในประเทศที่ยังมีข้อสงสัยไปดู" นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า หากไปดูการผลิตและการเก็บมะพร้าวภาคอุตสาหกรรมของจริงจะได้เห็นภาพว่าเป็นอย่างไร จะได้ไม่เกิดความเข้าใจที่คาดเคลื่อนต่อไป เพื่อต้องการที่จะคงตัวเลขการส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวของไทยในตลาดต่างๆ ในโลกไว้ ถ้าเพิ่มได้ก็จะเป็นเรื่องดี ตนเองเคยเยี่ยมซุปเปอร์มาร์เก็ตในแถบยุโรปบางประเทศพบว่าสินค้ากะทิจากประเทศไทย รวมทั้งผลิตภัณฑ์มะพร้าวก็เป็นที่นิยม น่าจะใช้แบรนด์จากต่างประเทศบางแบรนด์ก็ใช้เป็นมะพร้าวที่ผลิตประเทศไทยก็จะนำรายได้เข้าประเทศ สำหรับตลาดที่ได้รับผลกระทบขนาดนี้ในตลาดสหราชอาณาจักรปรากฏว่าในบรรดาตลาดเข้าที่ 100% นั้นเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตร้านอาหารและโรงแรมของชาวเอเชียประมาณ 70% ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะในโซนเอเชียอาจจะมีความเข้าใจว่าเป็นอย่างไร แต่ที่มีความผลกระทบคือ 30% ที่เป็นของมีเจ้าของเป็นอียูหรือยุโรปต้องทำความเข้าใจต่อไป
สำหรับผลผลิตมะพร้าวของไทยในปี 62 มีประมาณ 788,000 ตัน และโรงงานแปรรูปผลผลิตจากมะพร้าว 15 แห่งสามารถผลิตเป็นกะทิได้ 113,000 ตัน โดย 70% เป็นการบริโภคภายในประเทศ ส่วนที่เหลือส่งออกต้องนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเพิ่มเติม เช่น อินโดนีเซีย เป็นต้น
การส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวจะมี 2 ผลิตภัณฑ์ คือ 1.กะทิ และ 2.มะพร้าวอ่อน แต่ประเด็นปัญหาที่อยู่ขณะนี้คือเรื่องของกะทิ ซึ่งยอดส่งออกเมื่อปีที่แล้วตกประมาณ 12,300 ล้านบาท โดยส่งออกไปยังสหภาพยุโรป 18% มูลค่า 2,250 ล้านบาท และในสหภาพยุโรปเป็นประเทศอังกฤษหรือสหราชอาณาจักร 8% มูลค่า 1,000 ล้านบาท