ม.หอการค้าฯปรับ GDP ปีนี้เพิ่มเป็น 3.8-4.3% จากปัจจัยบวกทั้งใน-ตปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 26, 2007 13:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปี 50 เพิ่มขึ้นเป็น 3.8-4.3% จากเดิมที่คาดการณ์ว่า GDP ทั้งปีจะเติบโตอยู่ในระดับ 3.5-4.0% โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ในต้นไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
สาเหตุที่ปรับประมาณการณ์ GDP ในปีนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมูลค่าการส่งออกของไทยมากกว่าคาดการณ์เดิม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ส่งออกยังคงได้รับประโยชน์จากการที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวในระดับสูง แต่ผู้ประกอบการที่ค้าขายภายในประเทศยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลง
ทั้งนี้คาดการณ์ GDP ปี 50 ดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมติฐานว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และค่าเงินบาทเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 34.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ปัจจัยบวกของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกยังขยายตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง, อัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับตัวลดลง ซึ่งช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในไตรมาส 4 ปีนี้ได้, การใช้งบประมาณขาดดุลของภาครัฐที่จะเป็นปัจจัยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสร้างเงินหมุนเวียนให้กับระบบเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากที่รัฐบาลพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายการคลังและนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเลือกตั้งในช่วงปลายปีนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและผู้ประกอบการมากขึ้น
ในขณะที่ปัจจัยลบสำคัญ ประกอบด้วย สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่มีเสถียรภาพซึ่งส่งผลกระทบในเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการยังอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี และไม่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จึงทำให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายและผู้ประกอบการชะลอการลงทุนและการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลเอเชียและการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจากมาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาค่าเงินบาทน่าจะทำให้เงินบาทช่วงครึ่งปีหลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.50-34.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หากแข็งค่ามากกว่านั้นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย และราคาน้ำมันในตลาดโลกคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับ 65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับปี 49
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ยังคาดว่า การส่งออกในปีนี้จะเติบโต 12.5% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 144,248 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การนำเข้าขยายตัว 9.1% คิดเป็นมูลค่า 137,439 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าจะเกินดุลการค้าประมาณ 6,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเกินดุลบัญชีเดินสะพัดประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.1%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ