ไฟแนนเชียล อินไซท์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในเครือของ อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ป บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ด้านการเงินของสิงคโปร์ คาดการณ์ว่า ธุรกิจการเงินและการธนาคารอิสลามจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แต่บททดสอบที่แท้จริงของธุรกิจกลุ่มนี้ก็คือคำถามที่ว่า ระบบการเงินและการธนาคารอิสลามจะรับมือต่อวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ได้อย่างไร
นายอับฮีเช็ค คูมาร์ นักวิเคราะห์ของไฟแนนเชียล อินไซท์กล่าวว่า ธุรกิจการเงินและการธนาคารอิสลามมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้น ควบคู่ไปกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านการเงินใหม่ๆของอิสลาม ทั้งนี้ ธุรกิจการเงินและการธนาคารอิสลามมีแนวโน้มที่สดใสในตลาดเอเชีย และยังคงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายคูมาร์กล่าวว่า ธุรกิจการเงินและการธนาคารอิสลามเพิ่งจะเติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวเมื่อไม่นานมานี้ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากังวลว่าธุรกิจธนาคารอิสลามจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงด้านการเงินครั้งใหญ่ได้อย่างไร
ปัจจุบันนี้สินทรัพย์ด้านการเงินของธนาคารกลางอิสลามทั่วโลกคิดเป็นมูลค่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยธุรกิจกลุ่มนี้มีอัตราการขยายตัวเป็นเลขสองหลักต่อปี
นอกจากนี้ นายคูมาร์กล่าวว่า มาเลเซียเป็นศูนย์กลางธนาคารอิสลามในภูมิภาค ขณะที่ประเทศไทย อินโดนีเซีย ปากีสถาน และสิงคโปร์ ก็ให้การสนับสนุนธุรกิจการเงินและการธนาคารอิสลามเช่นกัน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ระบบการธนาคารอิสลามเป็นการผสมผสานกันระหว่างหลักกฎหมายชาเรียของอิสลามและระบบการธนาคารแผนใหม่ ซึ่งระบุห้ามไม่ให้นำเม็ดเงินในธนาคารอิสลามไปลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับยาสูบ แอลกอฮอล์ และการพนัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--