(เพิ่มเติม) ธปท.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 50 โต 4-5%, ปี 51 โต 4.5-6.0%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 27, 2007 15:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประกาศปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 50 เป็น 4.0-5.0% จากเดิม 3.8-4.8% และในปี 51 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.5-6.0% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.3-5.8% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ แม้เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นก็ตาม 
ธปท.ยังคาดว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนอาจปรับดีขึ้นเร็วกว่าคาด แรงกระตุ้นการตัดสินใจบริโภคและลงทุนจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำอาจมีมากกว่าคาด โดยเฉพะเมื่อความไม่แน่นอนต่างๆ คลี่คลายลง และอุปสงค์ต่างประเทศที่อาจชะลองน้อยกว่าที่คาด
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 50 ยังคงอยู่ในระดับเดิมที่ 1.5-2.5% จากนั้นอัตราจะชะลอลงมาที่ 1.0-2.5% ในปี 51 ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะลดลงมาที่ 0.8-1.5% และขยับมาเป็น 1.0-2.0% ในปี 51
ธปท.ระบุว่า ข้อมูลล่าสุดในเดือนเม.ย.-พ.ค.50 พบว่าอุปสงค์ภายในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้น เป็นผลจากความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีความชัดเจน ขณะที่แรงกระตุ้นจากภาครัฐและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำช่วยรักษากำลังซื้อของประชาชน รวมทั้งนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง ประกอบกับการส่งออกยังขยายตัวในเกณฑ์ดี เป็นสัญญาณที่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไป
อนึ่ง นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงในช่วงที่ผ่านมาจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของภาคธุรกิจและครัวเรือน ซึ่งเมื่อพิจารณาควบคู่ไปกับความสามารถในการทำกำไรของระบบธนาคารพาณิชย์ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและสัญญาณที่เป็นบวกในตลาดหลักทรัพย์ทำให้เสถียรภาพโดยรวมของระบบเศรษฐกิจการเงินไม่น่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อาจปรับสูงขึ้นจากอุปทานน้ำมันที่มีความไม่แน่นอน เพราะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย, ค่าเงินบาทที่อาจแข็งค่าขึ้นรวดเร็วกว่าในกรณีฐาน และการที่รัฐบาลอาจไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ อาจทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่ากรณีฐาน
นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า การปรับประมาณการ GDP ปี 50 และ ปี 51 ใหม่ มีปัจจัยหนุนหลักมาจากการส่งออก โดยเฉพาะในไตรมาสแรกที่ขยายตัวดีมาก ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 18% ซึ่งในช่วงไตรมาส 2/50 ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 34.69 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจาก 35.59 บาท/ดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 1/50
และแม้ว่าธปท.จะคาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปีการส่งออกจะชะลอลงมาที่ 9-10% แต่มองว่าทั้งปีน่าจะยังขยายตัวได้ 12-15% สูงกว่าเดิมที่คาดไว้ในระดับ 9-12% โดยได้รวมผลกระทบจากค่าเงินบาทแล้ว
ทั้งนี้ ธปท.ได้ตั้งสมมติฐานค่าเงินบาทในปีนี้ไว้ที่ แม้ว่าค่าเงินบาทที่ผันผวนจะมีผลบ้าง แต่สิ่งสำคัญ คือ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ามากกว่า
ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยต่ำ ความชัดเจนทางการเมือง จะทำให้ความเชื่อมั่นเอกชนกลับมาและการลงทุนเริ่มฟื้นตัวขึ้น
"ไตรมาส 3 การลงทุนจะเริ่มกลับมา ซึ่งตอนนี้ค่อยๆทยอยปรับตัวขึ้นเห็นได้จากตัวเลขขอรับการส่งเสริมของบีโอไอ ขณะที่ในไตรมาส 1 ติดลบ 2% " นางสุชาดา กล่าว
นางสุชาดา กล่าวต่อว่า ในระยะต่อไปคาดว่าจะยังมีเงินทุนไหลเข้ามาในประเทศไทย ทั้งเงินที่เข้ามาลงทุนโดยตรง (FDI) และลงทุนในตลาดหุ้น เพราะนักลงทุนต่างชาติยังให้ความสนใจค่อนข้างมาก เนื่องจากค่า PE ของตลาดหุ้นไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จึงมีช่องทางที่จะทำกำไรได้
สำหรับภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2/50 ธปท.คาดว่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/50 ที่เติบโตในระดับ 4.3%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ