(เพิ่มเติม) นายกฯระบุปัญหาบาทแข็งค่าเกิดในช่วงสั้นๆ รบ.พร้อมรับมือ

          พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาค่าเงิบาทแข็งค่าในขณะนี้ว่า ได้หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไข  โดยสาเหตุสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค  ซึ่งรัฐบาลได้วางมาตรการต่างๆ ไว้แล้ว เพื่อให้ผลกระทบที่เกี่ยวขึ้นไม่มากจนเกินไปทั้งในส่วนของค่าเงิน และองค์กรที่เกี่ยวข้อง 
          "คาดว่าจะเป็นผลกระทบเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น ทั้งนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นเพียงโซนเดียว คือภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ แต่ทางตรงกันข้ามก็เกิดผลดีกับการสั่งซื้อน้ำมันที่ทำให้ซื้อได้ในราคาที่ถูกลง"กล่าวในรายการ เปิดบ้านพิษณุโลกเช้าวันนี้
          ทั้งนี้ เนื่องจากมีกระแสของการลงทุนมาทางเอเชียค่อนข้างมาก เพราะฐานเศรษฐกิจทางเอเชียมีการขยายตัวมาก ถือว่าไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่เลวร้ายอะไร ในด้านของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะเห็นว่ามีทุนจากต่างประเทศเข้ามา  เมื่อเข้ามามาก ก็ทำให้เงินบาทออกไปนอกประเทศ ต่อกรณีนี้เองรัฐบาลได้ดูแลมาโดยตลอด ตั้งแต่ที่ตนเองเข้ามาบริหารก็เห็นแนวโน้มค่าเงินบาทจะแข็งตัวขึ้นมาตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว รัฐบาลได้วางมาตรการได้เตรียมการต่าง ๆ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากจนเกินไป 
           พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงนักลงทุนที่ซื้อเงินบาทเพื่อเก็งกำไรว่า จะเป็นอันตรายกับระบบและตลาด  ดังนั้น จึงอยากให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเมือง รัฐบาลพยายามดูทั้ง 2 ส่วนควบคู่กันไป เพื่อไม่ให้สร้างปัญหาแก่รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ
           "การลงทุนในตลาดหุ้น เราได้มีการจำกัดเพดานอยู่แล้วในแต่ละวันว่าได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร เราคงดูในส่วนนี้ สิ่งที่ผมอยากจะเรียนเตือนนักลงทุนไทยคือ อย่าผลีผลาม เพราะว่าในเรื่องของตลาดหุ้น  มีคำพูดกันอยู่แล้วว่า “แมงเม่า" ฉะนั้น ตรงนี้ต้องระวัง เพราะที่  รัฐบาลพยายามจะแนะนำในเรื่องของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็มาอยู่ตรงนี้ว่า  ความมีเหตุผล  เรามีความไม่ประมาทไหม เรามีทางที่จะป้องกันตัวเราเองอย่างไร สิ่งเหล่านี้คือได้นำแนวทางให้เราได้พิจารณาว่าอย่าเล็งผลเลิศจนเกินไป หาจุดที่มีเหตุผล มีความพอเพียง ในการที่จะลงทุนหรือไม่ลงทุน" นายกรัฐมนตรีกล่าว