ครม.เห็นชอบปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรตามที่คลังเสนอ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 3, 2007 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้ความเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการผลิตในประเทศตามที่กระทรวงการคลังเสนอ จำนวน 157 ประเภทย่อย
การดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากรตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังข้างต้นจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีศุลกากรไปประมาณปีละ 700 ล้านบาท แต่จะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมในประเทศ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ
นอกจากนี้ การปรับเพิ่มอัตราอากรขาเข้าตามราคาสำหรับกระจกโฟลตเป็นการชั่วคราวก่อนที่จะมีการแก้ไข พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากรเพื่อนำเอาอัตราอากรตามสภาพกลับมาใช้ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบอุตสาหกรรมกระจกโฟลตในประเทศให้สามารถแข่งขันได้กับกระจกนำเข้าราคาถูกจากจีน
สำหรับการปรับลดอัตราอากรขาเข้าปัจจัยการผลิต จำนวน 153 ประเภทย่อย ประกอบด้วย
-ปรับลดอัตราอากรขาเข้าปัจจัยการผลิตที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศจากอัตราร้อยละ 1-30 เป็น ยกเว้นอากร จำนวน 126 ประเภทย่อย เช่น ข้าวสาลีดูรัม ผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นเคลือบ ถุงพลาสติกปลอดเชื้อ แผ่นแก้วที่เสริมด้วยลวด เครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแรงปฏิกิริยา เครื่องสูบของเหลว เครื่องจักรสำหรับใช้ในงานโลหะที่ใช้ไฟฟ้าและวาล์วลดความดัน เป็นต้น
-ปรับลดอัตราอากรขาเข้าลงสู่อัตราอากรตามโครงสร้างการผลิตที่กระทรวงการคลังกำหนด คือ ร้อยละ 5 และร้อยละ 10 จำนวน 26 ประเภทย่อย เช่น ถั่วลันเตา ถั่วแขก หลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดฮอดแคโทด แม่แรงชนิดติดตั้งถาวรในอู่ซ่อมรถ และหม้อดูดซับน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
-ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราอากรขาเข้าเหล็กแผ่นชนิดทีเอ็มบีพี ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระป๋องบรรจุอาหาร ตามประเภทย่อย 7208.18.10 ในอัตราร้อยละ 1 ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.50 ออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.51
-การปรับเพิ่มอัตราอากรขาเข้ากระจกสะท้อนแสง และกระจกฉนวนความร้อนจาก ยกเว้นอากร เป็นร้อยละ 5 และร้อยละ 10 ตามลำดับ
-การปรับเพิ่มอัตราอากรขาเข้ากระจกโฟลตเฉพาะที่มีความหนาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร จากร้อยละ 5 เป็น ร้อยละ 20 เป็นการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการยกเลิกการกำหนดอัตราอากรตามสภาพที่กิโลกรัมละ 2 บาท เมื่อวันที่ 1 ม.ค.50
-การปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากร ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบในวันนี้ กระทรวงการคลังได้หารือ และได้ข้อสรุปร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม (สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) กระทรวงพาณิชย์ (กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ) สถาบันยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ