นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนมิ.ย.50 ขยายตัว 17.7% คิดเป็นมูลค่า 12,852.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการนำเข้าขยายตัว 5.2% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 11,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 882 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการส่งออกช่วงครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.50) ขยายตัว 18.6% โดยมีมูลค่า 71.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าขยายตัว 5.6% หรือมีมูลค่า 66,093.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ไทยเกินดุลการค้าประมาณ 5,505.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
"สินค้าสำคัญส่งออกได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกหมวด ทั้งสินค้าเกษตรและ อุตสาหกรรมการเกษตร โดยยอดส่งออกในเดือนมิถุนายนเกือบจะสูงสุดในรอบ 6 เดือน จะต่ำอยู่เพียงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเท่านั้น"นายเกริกไกร กล่าว
นายเกริกไกร กล่าวว่า ในเดือนมิ.ย.การส่งออกไปยังตลาดใหม่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 25.9% โดยตลาดอินเดียขยายตัว 74% ยุโรปตะวันออก 73% ตะวันออกกลาง 39% จีน 29% ส่วนตลาดหลักที่ยังขยายตัวได้ดี คือ สหภาพยุโรป 24% ญี่ปุ่น 17% ยกเว้นตลาดสหรัฐฯที่ชะลอตัวลงมาตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากกำลังซื้อชะลอตัวลง
ส่วนด้านการนำเข้าในเดือนมิ.ย. สินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นทุกหมวดเช่นกัน ยกเว้นสินค้าประเภทเชื้อเพลิงลดลง 1.4% เนื่องจากผลกระทบการแข็งค่าของเงินบาท
นายเกริกไกร คาดว่า การส่งออกในปีนี้น่าจะบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่าจะขยายตัว 12.5% แต่จะต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทในช่วง 3 เดือนข้างหน้าด้วยว่ามีผลกระทบต่อการส่งออกหรือไม่
"แม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่า แต่การส่งออกของเราก็ดีกว่าพวกท่านคิด" รมว.พาณิชย์ กล่าว
นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ปรับเป้าการส่งออกในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ของค่าเงินบาทยังมีความผันผวนอยู่ หากปรับเปลี่ยนเกรงว่าอาจจะเกิดความสับสน คงจะรอให้ค่าเงินมีความชัดเจนก่อน
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--