คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้เปิดตัวโครงการ "Think Resilience, Think Thailand" เพื่อชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของประเทศที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว และยังตอกย้ำถึงสถานะของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาค
แคมเปญดังกล่าวจัดตั้งขึ้นในขณะที่ไทยได้รับเสียงชื่นชมในเรื่องการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรับมือกับวิกฤตของประเทศ และการกลับมาอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เหมือนดังที่ประเทศไทยสามารถทำสำเร็จมาแล้วในช่วงวิกฤตการเงินเอเชีย ปี 2540 และวิกฤตการเงินโลก ปี 2551
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า แคมเปญใหม่นี้ได้ดึงความสามารถในการแข่งขันหลัก ๆ ทั้ง 4 ข้อ ได้แก่ ความหลากหลาย ระบบนิเวศ ทำเลที่ตั้ง และซัพพลายเชน เข้าไว้ในการวางจุดยืนเชิงกลยุทธ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในอาเซียน และเกตเวย์สู่เอเชีย
ระบบนิเวศด้านการลงทุนของไทยนั้น มีทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย นโยบายการลงทุนที่เอื้ออำนวย นโยบายจูงใจด้านภาษีและการยกเว้นภาษี นอกจากนี้ นักลงทุนที่มีระบบโครงสร้างในไทยอยู่แล้ว จะสามารถดำเนินงานได้อย่างคุ้มทุน และยังทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบาย เมื่อปีที่แล้ว ประเทศไทยติดอันดับที่ 21 ในเรื่องของความสะดวกในการทำธุรกิจ จากทั้ง 190 ประเทศที่ทางเวิลด์แบงก์ได้สำรวจ
ทำเลเชิงกลยุทธ์ของไทยในใจกลางอาเซียนทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดรวมที่มีประชากรมากกว่า 630 ล้านราย ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและอินเดีย
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ในขณะที่โควิด-19 ทำให้โลกต้องเผชิญกับความท้าทายด้านสังคมและเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนั้น โควิด-19 อาจจะปูทางสู่โอกาสในด้านต่าง ๆ ที่รอเราอยู่ เราต้องการที่จะสื่อให้นักลงทุนได้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่มีความยืดหยุ่นของไทย และการเป็นทำเลที่สมบูรณ์แบบสำหรับการคว้าโอกาสในด้านต่าง ๆ