S&P ชี้แรงกดดันจีนลดยอดเกินดุลการค้ายิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านนโยบาย

          สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เปิดเผยว่า แรงกดดันภายนอกที่ต้องการให้จีนควบคุมยอดเกินดุลการค้ามากขึ้นนั้น จะทำให้จีนเผชิญความเสี่ยงที่ต้องใช้นโยบายการบริหารจัดการมากกว่าเดิม รวมทั้งการควบคุมการส่งออกโดยตรง เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
          โดยการดำเนินการดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดภาวะการบิดเบือนทางเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาด้านนโยบายในอนาคต
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า คิม เอ็ง ทาน นักวิเคราะห์สินเชื่อของ S&P กล่าวว่า หากจีนหันมาดำเนินการควบคุมยอดเกินดุลภายนอกก็จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของจีนเอง อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้อาจจะไม่ส่งผลในระยะสั้นที่มีนัยสำคัญต่อยอดเกินดุลการค้า นอกจากนี้ จีนควรใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนจัดการกับยอดเกินดุลการค้า แทนที่จะพึ่งพาวิธีแข่งขันด้านการค้า
          คิม เอ็ง แทน กล่าวต่อไปว่า จีนยังเผชิญกับความเหลื่อมล้ำระหว่างความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยและตัวเลข GDP ที่คำนวณจากภาคการผลิต ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขส่งออกของจีนไม่สามารถนำมาคำนวณรวมกับตัวเลขการผลิตได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่ายอดเกินดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นนั้นอาจแฝงตัวอยู่ในรูปของกระแสเงินทุนไหลเข้า