นายบรรยง พงษ์พาณิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เปิดเผยผ่านหัวข้อ"ตลาดเงินและตลาดทุนไทย" ว่า ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ถือเป็นธุรกิจที่เผชิญกับปัจจัยกดดันค่อนข้างมาก จากการถูก Disrupt มาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และในปีนี้มีปัจจัยกดดันจากโควิด-19 ที่เข้ามากระทบ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทุกคนต่างไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า ทำให้ธุรกิจธนาคารพาณิชย์เผชิญกับความท้าทายในเรื่องการบริหารจัดการหนี้ ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ธนาคารพาณิชย์กำลังเผชิญอยู่ในช่วงนี้
ผลกระทบโควิด-19 ที่ส่งผลในวงกว้าง ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบถ้วนหน้า รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบไปด้วยในรอบนี้ ซึ่งธนาคารพาณิชย์จะต้องพยายามประคอง และติดตามลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ให้ความช่วยเหลือลูกค้าตามความสามารถของแต่ละธนาคารที่รองรับไหว เพื่อทำให้ลูกค้ายังสามารถประคองธุรกิจผ่านพ้นวิกฤตไปได้ แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโควิด-19 จะคลี่คลายลงชัดเจนเมื่อไหร่ เพราะในต่างประเทศยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และยังต้องรอวัคซีนว่าจะใช้ได้จริงเมื่อไหร่
โดยที่ภาพรวมของธนาคารพาณิชย์ในปีนี้มองว่าการตั้งสำรองฯคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกธนาคาร เพื่อเป็นป้องกันความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันในช่วงนี้ที่เป็นการพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าของแต่ละธนาคาร ถือเป็นการช่วยประคับประคองลูกค้าให้สามารถไปต่อได้ แต่ทุกธนาคารจะต้องห้ามลืมการเตรียมตัวรองรับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะยังไม่สามารถทราบได้แน่นอนว่าทุกอย่างจะกลับมาปกติเมื่อไหร่ ทำให้ตอนนี้การวางแผนทุกอย่างจะต้องเผื่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตไว้ด้วย
"ภาวะที่เราเคยมองคาดการณ์เป็นอีกแบบ แต่พอโควิด-19 มากลับพลิกเป็นอีกแบบ ซึ่งทุกคนไม่คาดคิดมาก่อน และก็ยังไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ แม้ว่าตอนนี้ประเทศเราจะประสบความสำเร็จกับการควบคุมโควิด-19 มาก แต่เราก็กระทบมากจากการท่องเที่ยวที่หายไป การส่งออกที่ชะลอ และเราก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเหมือนเดิมได้ตอนไหน ทำให้เราต้องวางแผนเผื่ออนาคตที่ไม่คาดคิดไว้เสมอ"นายบรรยง กล่าว
ทั้งนี้สิ่งที่อยากแนะนำทุกคนเมื่อเผชิญกับภาวะวิกฤต สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือ การตั้งสติ ไม่ตี่นตระหนกมากจนเกินไป ทำให้การทำงานการวางแผนไปต่อไม่ได้ แล้วเมื่อตั้งสติได้แล้วอยากให้วิเคราะห์ข้อมูล นำข้อมูลทรัพยากรต่างๆมาวิเคราะห์ เพื่อดูปัญหาและวางแผนในการแก้ไข และวางแผนงานที่จะไปต่อได้ในอนาคต เพื่อนำไปสู่การพัฒนาทางเลือกอื่นๆที่จะสามารถเข้ามาเสริมกับธุรกิจเพิ่มเติมหรือทดแทนสิ่งที่หายไปได้ในภาวะวิกฤต เพื่อให้ทุกคนยังสามารถเดินไปข้างหน้าได้ต่อผ่านพ้นวิกฤตไป
นอกจากนี้ยังมองโอกาสของการเพิ่มรายได้และความสามารถของธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างมาก ในการที่เปิดโอกาสในคนรวยที่เป็นชาวต่างชาติ ที่ยังมีความกังวลในการอยู่อาศัยในประเทศของตนที่ยังมีการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เข้ามาพักอาศัยในประเทศไทยได้ชั่วคราว หรือเรียกว่าแคมเปญ Safe Heaven เพื่อเป็นทางเลือกในการช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวของไทย จากการให้เข้าพักเพื่อกักตัวในโรงแรม 4 ดาว เป็นระยะเวลา 14 วันก่อน แล้วหลังจากนั้นให้ชาวต่างชาติสามารถเลือกที่พักไปย้ายอยู่ตามโรงแรม 5 ดาวที่มีมาตรฐานการควบคุมที่ดีได้ และเพิ่มการบริการอื่นๆเข้าไปเสริม ทำให้มีการใช้จ่ายเงินเข้ามาในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เข้ามา และเกิดการจ้างงานที่กลับมาในภาคท่องเที่ยว เป็นต้น