นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กิโลเมตร มูลค่าลงทุนราว 8.5 หมื่นล้านบาท และ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 6.8 หมื่นล้านบาท คาดจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้ในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อขออนุมัติโครงการและออกพรฎ.เวนคืนด้วย โดยทั้งสองเส้นทางนี้เป็นโครงการเส้นทางใหม่
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการโครงการถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ได้ให้ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และคณะกรรมการ รฟท. จะมีการดำเนินการได้ตามแผนได้หรือไม่ที่จะมีการเดินรถเสมือนจริง มี.ค.64 และเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ พ.ย.64 เนื่องจากได้รับแจ้งว่า โครงการนี้มีงานเพิ่มขึ้นมา ซึ่งทำให้งบดำเนินการเพิ่มอีก 10,345 ล้านบาท จากก่อนหน้าได้ปรับเพิ่มวงเงินโครงการตั้งแต่ 5.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 9.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้รับงบสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น(ไจก้า) ซึ่งคาดว่าใน 2 สัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุป
รมว.คมนาคม ยังกล่าวว่า โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงยังต้องใช้งบประมาณลงทุนในส่วนต่อขยายอีก 4 ช่วง และส่วนที่เพิ่มของช่วงบางซื่อ-รังสิต หรือส่วนที่ 5 ทำให้รัฐต้องลงทุนรวมกว่า 7 หมื่นล้านบาท ขณะที่งบประมาณแผ่นดินมีอยู่จำกัด จึงเห็นว่าควรให้มีการลงทุนในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนภาครัฐ (PPP) โดยรัฐจะให้สัมปทานการเดินรถ 30 ปี พร้อมให้ลงทุนงานโยธา
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการถไฟทางคู่ ระยะ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ซึ่งขอข้อมูลนำไปวิเคราะห์พิจารณาความคุ้มค่าของโครงการ โดยจะลำดับความสำคัญแต่ละโครงการซึ่งการดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ระยะ 2 ให้สอดคล้องกับโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังข้อมูลสนับสนุนให้กับสภาพัฒน์