นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวในระหว่างพิธีลงนามในสัญญาจ้างเข้ารับตำแหน่งว่า จะเร่งดำเนินการตามโยบายของคณะกรรมการในโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกกรุงเทพมหานคร ซึ่งยังเหลืออีก 2 สัญญาที่ยังไม่สรุปผลการประมูล คือ สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางยกระดับจากแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เซ็นทรัลพระราม 2 ระยะทาง 6.4 กม. และสัญญาที่ 3 งานก่อสร้างทางยกระดับจากโรงพยาบาลบางปะกอก 9 – ด่านดาวคะนอง ระยะทาง 5 กม.
ส่วนโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N1 จะนัดหารือในรายละเอียดในข้อเท็จจริงทั้งหมดกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งขณะนี้มีทางเลือก 2 แนวทางคือ ไม่ทำ หรือเปลี่ยนวิธีใหม่เพื่อให้โครงการไปต่อได้ แต่ไม่ใช่เปลี่ยนแนวใหม่ ซึ่งจะต้องหาข้อยุติร่วมกันให้ได้
สำหรับการแก้ไขปัญหาจราจรบนทางด่วนตามนโยบายกระทรวงคมนาคม โดยยกเลิกไม้กั้นรูปแบบเดียวกับมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวงนั้น ในส่วนของกทพ.จะต้องทำตามนโยบาย ซึ่งจะมีช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะแจ้งกับพนักงานกทพ.ให้เตรียมพร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งกทพ.แม้จะมีพนักงานจัดเก็บค่าผ่านทางจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีนโยบายเลิกจ้าง ดังนั้น จะต้องปรับโยกไปหน้าที่อื่นแทน
ผู้ว่ากทพ. กล่าวถึงนโยบายการเพิ่มรายได้มี 3 ส่วน คือ การขยายโครงข่ายระบบทางด่วน เพื่อเพิ่มช่องทางให้กับผู้ใช้รถ ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น กระบวนการซ่อมบำรุงต่าง ๆ ที่สูงเกินไปหรือไม่ และพัฒนาพื้นที่เขตทางเชิงพาณิชย์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเต็มเม็ดเต็มหน่วย
"ยอมรับว่าหนักใจ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พูดคยกับพนักงานกทพ. ยังมีหลายเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน แต่เชื่อมั่นในความตั้งใจ จริงใจ ซึ่งผมไม่รู้จักใคร ไม่มีพวกแต่จะพยายามทำงาน เพื่อสร้างผลงานและทำให้กทพ.เป็นรัฐวิสาหกิจแถวหน้าของประเทศ โดยขอเวลาปรับตัว 3 เดือน น่าจะมีความชัดเจน"
ในวันนี้ นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. ได้ลงนามในสัญญาจ้าง นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข เป็นผู้ว่าฯกทพ.คนใหม่
"ผู้ว่าฯกทพ.จะเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญ ซึ่งจากประสบการณ์ในสายงานวิศวกรรมก่อสร้าง และมีความเข้าใจในองค์กรรัฐวิสาหกิจ และเคยเป็นสหภาพฯ มาก่อน เชื่อว่าจะนำพากทพ.ไปสู่เป้าหมายในทำงานตามนโยบายและการให้บริการที่มีประสิทธิภาพกับประชาชน" นายสุรงค์ กล่าว