PHATRA มองการเมืองเป็นปัจจัยเสี่ยงรอรบ.ใหม่ คงคาดการณ์ GDP ที่ 3.7%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 27, 2007 14:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บล.ภัทร(PHATRA) ยังคงประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.7% ซึ่งคงจะไม่มีการทบทวน เพราะมองปัจจัยการเมืองยังเป็นเความเสี่ยงแม้ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านความเห็นชอบ แต่ยังต้องรอดูภาพของรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ  
ขณะที่มองเศรษฐกิจโลกปีนี้จะเติบโตประมาณ 5% ส่วนปีหน้าอาจลดลงเล็กน้อยมาที่ 4.8% โดย 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจจะมาจากเอเชีย แม้ว่าขณะนี้สหรัฐฯจะยังคงมีปัญหาซับไพร์มแต่จะกระทบเอเชียไม่มาก เนื่องจากว่า เศรษฐกิจเอเชียมีแรงขับเคลื่อนตัวเอง มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด มีภาวะหนี้น้อย
แต่สิ่งที่ระมัดระวังคือการบริโภคลดลงของสหรัฐ และต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับสหรัฐฯมีความจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ย แต่ในเอเชียกลับต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่น จีน เป็นต้น รวมถึงยุโรป ดังนั้นจะเกิดความตึงตัวของสภาพคล่องในปีหน้า รวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ เหล็ก และน้ำมันดิบ ราคาจะปรับลดลง จากความต้องการของสหรัฐฯลดน้อยลง ขณะที่การส่งออกของไทยอาจได้รับผลกระทบจากกตลาดสหรัฐฯชะลอตัว
"ผมมองว่าการส่งออกของไทยถึงจุดสูงสุดแล้วต่อไปจะชะลอตัวลงเยอะ เนื่องจากว่าสหรัฐฯ ถ้าเขามีปัญหาในเรื่องปัญหาหนี้ เขาจะไม่สามารถขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้มาก ซึ่งก็เกิดจากปัญหาซับไพร์ม หรือคถุณภาพหลักทรัพย์ไม่ดี ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงก็จะส่งผลให้นำเข้าลดลง" นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บล.ภัทร กล่าว
นอกจากนี้ บล.ภัทร มองทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทย คาดว่าคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เคยบอกว่าอัตราปัจจุบันเป็นอัตราที่เหมาะสม
"ไม่ว่าเฟด(ธนาคารกลางสหรัฐ)จะลงหรือไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับไทย เพราะแบงก์ชาติมีนโยบายไม่ผูกติดกับใคร หากลงมาที่ภาคอสังหาฯ ไม่น่าเป็นห่วง เพราะในระยะยาวความต้องการอสังหาฯยังมี ประกอบกับราคาที่ดินและอสังหาฯ ยังถูกเมื่อเทียบภูมิภาค" นายศุภวุฒิกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ