นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/63 ที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์แถลงว่าหดตัว -12.2% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน หรือหดตัว 9.7% จากไตรมาสก่อน เป็นการหดตัวสูงในเกือบทุกองค์ประกอบ ยกเว้นการใช้จ่ายภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจ
และเมื่อเทียบกับประมาณการล่าสุดของ ธปท. ในเดือน มิ.ย.63 พบว่าหดตัวน้อยกว่าที่ประเมินไว้ จากการบริโภคภาคเอกชนและการสะสมสินค้าคงคลังเป็นสำคัญ แต่ในภาพรวมถือว่าไม่ผิดจากที่คาดมากนัก โดยยังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2 และจะทยอยปรับดีขึ้นในระยะข้างหน้า
แต่เศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนอยู่มากและต้องการแรงสนับสนุนด้านความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ โดยเฉพาะการจ้างงานและลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น จึงต้องติดตามพัฒนาการต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ นโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐฯ และมาตรการตอบโต้ของประเทศคู่ค้า รวมถึงมาตรการการเงินการคลังที่อาจออกมาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ธปท.จะมีการประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจและเผยแพร่อีกครั้งในรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือน ก.ย.63