ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์เคลื่อนผันผวน หลังยอดขายบ้านมือสองสหรัฐร่วง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 28, 2007 07:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ค.ในสหรัฐปรับตัวลดลงเกินคาด โดยดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน แต่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เงินปอนด์ ดอลลาร์แคนาดา และฟรังซ์สวิส
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3653 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3673 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 2.0129 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0134 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 116.13 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 116.21 เยนต่อดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.2031 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.2018 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0530 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0527 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ค. ร่วงลง 0.2% สู่ระดับ 5.75 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 เดือน และจำนวนบ้านโดยรวมที่ยังไม่สามารถขายได้เพิ่มขึ้น 5.1% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.59 ล้านยูนิต
ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ทำให้นักลงทุนกังวลว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดปล่อยกู้จำนองอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้
เมื่อวานนี้ นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปได้กล่าวสุนทรพจน์ที่ฮังการี แต่เขาไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในยุโรป ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างแรงกดดันให้กับสกุลเงินยูโร
การกล่าวสุนทรพจน์ของนายทริเชต์ครั้งนี้ เป็นการปรากฎตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกนับตั้งแต่ธนาคารกลางยุโรปอัดฉีดสภาพคล่องหลายพันล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคารเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ อันเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นายทริเชต์กล่าวถึงภาคการผลิตในยุโรปว่า "ประสิทธิภาพด้านการผลิตของแรงงานในยุโรปค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี 2548"
ทั้งนี้ นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางยุโรปจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าหรือไม่ หลังจากเกิดปัญหาสินเชื่อในยุโรปและทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และนักลงทุนจำนวนมากคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ