นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.มีแผนดำเนินงานต่อยอดแคมเปญสื่อสารเพื่อฟื้นฟูการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังจากที่ ททท. ได้เปิดตัวแคมเปญ "คิด..แล้วไปให้ถึง" พบว่ากระแสตอบรับดีมาก พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและสร้างบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ผ่านกลยุทธ์การดำเนินงานร่วมกับพันธมิตร (Strategic Alliance) ประกอบด้วย สายการบินในประเทศ และสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้เกิดการเดินทางและการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง
"พฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยยังคงนิยมเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดและวันหยุดยาวเป็นหลัก ททท.จึงมีแนวคิดที่จะหาแนวทางในการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดาเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีการจัดโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจมากขึ้น มุ่งเน้นการเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งมีจำนวน 12 ล้านคนต่อปี กลุ่มต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จำนวน 2 ล้านคนและกลุ่มจัดประชุมสัมมนาจำนวน 1 ล้านคน"
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ BCP กล่าวว่า ในปีนี้สถานการณ์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้ไม่มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ บางจากฯ จึงได้ร่วมกับ ททท. กระตุ้นเชิญชวนคนไทยให้ออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง สร้างงานสร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่น ด้วยการจัดทำโครงการ "คิด...แล้วไปให้ถึง เที่ยวเมืองไทย ใช้บางจาก เตรียมสิทธิประโยชน์รองรับการเดินทางท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ได้แก่
- สมาชิกบางจากเติมน้ำมันและใช้บริการในเครือบางจากแล้วรีบสะสมคะแนนเพื่อแลก Flash Saleเด็ดๆ นับพันรายการ เช่น ที่พักสุดหรูหลักหมื่นในราคาหลักร้อย บัตรเติมน้ำมันบางจาก ร้านกาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น FURiO บริการล้างรถจากคาร์แคร์ในเครือบางจาก ฯลฯ
- แสดงบัตรบางจากรับส่วนลด เครื่องดื่มอินทนิลแก้วที่สองลด 50% โรงแรมทั่วไทย สถานที่เที่ยว ร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมาย และพิเศษสุดเพื่อส่งเสริมความรักในวัฒนธรรมไทย บางจากฯ ได้ออกบัตรสมาชิกรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นบายกะปิ (Limited Edition by Kapi) ศิลปินกราฟิกดีไซเนอร์ชื่อดังของเมืองไทย ที่ออกแบบบัตรสื่อถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น 4 ภาค สามารถสมัครสมาชิกเพื่อรับบัตรรูปแบบใหม่นี้ได้ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศ ที่ร่วมรายการ โครงการจะเริ่มตั้งแต่ 1 กันยายน - 31 ธันวาคม 2563
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า เพื่อร่วมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวและรองรับวิถีใหม่ของผู้บริโภค บางจากฯ ยังคงขยายและพัฒนาสถานีบริการน้ำมันต่อเนื่อง โดยล่าสุด มีจำนวนทั้งสิ้น 1,212 แห่ง มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่บางจากแก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งยกระดับ E20 S EVO เป็นน้ำมันคุณภาพพรีเมียมแต่จำหน่ายราคาเท่าเดิม มีการนำนวัตกรรมระบบ Digital Payment ผ่านเครื่อง Mobile EDC Banking มาให้บริการในการชำระเงินค่าน้ำมันพร้อมกับการสะสมคะแนน ช่วยอำนวยความสะดวกและสอดคล้องวิถีชีวิตของสังคมไร้เงินสด ในส่วนของธุรกิจ Non-Oil ได้ขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีรวม 631 สาขา ซึ่งทั้งหมดนี้จะเชื่อมโยงและช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความปลอดภัยและสร้างความสุขให้กับการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยได้เป็นอย่างดี