FED เตือนหนี้สินเพิ่มส่งผลภาคครัวเรือนสหรัฐเสี่ยงถูกกระทบจากศก.ชะลอตัว

          ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในรายงานฉบับใหม่ว่า ภาคครัวเรือนในสหรัฐมีความเปราะบางต่อภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและชะลอตัวมากขึ้น เนื่องจากระดับหนี้สินในภาคครัวเรือนปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
          "ภาคครัวเรือนของสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว" นายโดนัลด์ โคห์น หนึ่งในผู้ว่าการเฟด และนางคาเรน ไดแอน นักวิเคราะห์ของเฟดกล่าวในรายงานที่นำเสนอต่อที่ประชุมธนาคารกลางออสเตรเลียและมีการเผยแพร่ในกรุงวอชิงตัน 
          นายโคห์นและนางไดแอนน์กล่าวว่า สัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ในภาคครัวเรือนของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 1:1 ซึ่งห่างไกลจากระดับก่อนหน้านี้ที่ระดับ 0:6  ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าตัวเลขหนี้สินพุ่งขึ้นรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา
          ผลสำรวจของเฟดระบุว่า ราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นและนวัตกรรมใหม่ๆด้านการเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนี้สินภาคครัวเรือนพุ่งสูงขึ้น เพราะราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินมากขึ้น และนวัตกรรมใหม่ๆด้านการเงิน อาทิ ช่องทางใหม่การปล่อยเงินกู้เพื่อการซื้อบ้านและการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นหลักทรัพย์ (securitization)
          "นวัตกรรมด้านการเงินแบบใหม่ๆได้เปิดโอกาสให้ภาคครัวเรือนเข้าถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้นและราบรื่นขึ้น แต่ช่องทางแบบนี้ก็เป็น "กับดัก" ที่ทำให้ผู้บริโภคติดนิสัยการกู้ยืม" รายงานระบุ
          อย่างไรก็ตาม เฟดคาดว่า วิกฤตการณ์ดังกล่าวจะไม่รุนแรงมากนักเนื่องจากราคาบ้านในสหรัฐทรงตัวและเริ่มชะลอตัวลง ขณะที่กฏเกณฑ์ด้านการปล่อยกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยก็มีความเข้มงวดมากขึ้น หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้ากลุ่มซับไพรม์ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน