นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้การเจรจาขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(เจบิค)เพื่อดำเนิน โครงการรถไฟฟ้าอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเจบิคแจ้งว่าไม่สามารถคิดอัตราดอกเบี้ย 0.75% ได้แล้ว เพราะขณะนี้เงินเยนแข็งค่าขึ้น และโครงการที่ให้กู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษกับโครงการประเภทที่รักษาสิ่งแวดล้อมนั้นหมดระยะเวลาไปแล้ว ซึ่งหากคิดอัตราดอกเบี้ยสูงมากเกินไป ก็คงกู้ได้ลำบาก
"ถ้าสูงมากก็ไม่ไหว ก็ขอต่อรองไป"นายสมหมาย กล่าว
นอกจากนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการรอข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นรูปแบบการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนในโครงการ ซึ่งทางเจบิคเร่งให้ไทยตัดสินใจว่าจะเลือกรูปแบบใด ระหว่างรัฐลงทุนทั้งโครงการ แล้วเปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการเดินรถ หรือ ให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนจัดหาตัวเรถเอง
"เจบิคเร่งให้รัฐบาลตัดสินใจว่าจะเลือกรูปแบบใด จะทำแบบเดิมที่รัฐลงทุนระบบโยธาและให้เอกชนเข้ามาลงทุนตัวรถ หรือรัฐบาลจะลงทุนทั้งหมดแต่ให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการ เพราะเอกชนอาจมีทุนไม่มากพอ และหากรัฐบาลเป็นคนดำเนินการเองก็จะเชื่อมโยงรถไฟฟ้าสายเดิมได้ดีกว่า"นายสมหมาย กล่าว
นายสมหมาย กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวขึ้นกับกระทรวงคมนาคมจะเสนอให้รัฐบาลตัดสินใจ ซึ่งหากหาข้อสรุปได้เร็วก็จะทำให้การทำข้อตกลงกับเจบิคทำได้เร็วด้วย โดยคาดว่ารัฐบาลทั้งสองฝ่ายน่าจะลงนามในสัญญาเงินกู้ได้ภายใน 2 เดือนหลังจากได้ข้อสรุป และเชื่อว่าเจบิคจะให้กู้เพื่อใช้เป็นค่าก่อสร้างในโครงการรถไฟฟ้าครบทั้ง 3 เส้นทางที่ไทยเสนอไป คือ เส้นสีม่วง สีแดง และสีน้ำเงิน
สำหรับประเด็นที่ว่าการให้กู้ของเจบิคอาจติดขัดที่รัฐบาลเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการนั้น นายสมหมาย กล่าวว่า เท่าที่ได้พูดคุยกันกับทางเจบิค ไม่เคยมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาสอบถามแต่อย่างใด
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ศศิธร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--