พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดการให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร – บ้านฉาง ส่วนต่อขยาย ช่วงพัทยา–มาบตาพุด ที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยได้มีการปล่อยขบวนรถยนต์จำนวน 100 คันแรกเข้ากรุงเทพมหานคร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เส้นทางสายนี้เป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายประวัติศาสตร์สายแรกของประเทศไทยที่เชื่อมโยงระบบการคมนาคมขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ตลอดจนเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม เขตพื้นที่ผลิตสินค้าการเกษตร และสินค้าประมงของประเทศ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่มีความสำคัญต่อระบบคมนาคมขนส่งระหว่างภาคกลางและภาคตะวันออกโดยเฉพาะภาคการส่งออกที่จะสามารถเชื่อมโยงไปสู่ประตูการค้าระหว่างประเทศ และยังพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจของภาคตะวันออกไปสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการคมนาคมขนส่งของประเทศและภูมิภาคอาเซียน และพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญที่จะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยได้มีการวางแผนงบประมาณ การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจะต้องมีการจัดระเบียบการจ่ายงบประมาณ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาเส้นทางคมนาคมยังต้องทำต่อเนื่องเชื่อมโยง และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม และขยายโอกาสการค้าและการลงทุน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น กระตุ้นการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานสากล เพิ่มความสะดวกรวดเร็วและลดระยะเวลาการเดินทาง ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญที่จะเกิดได้ทุกจังหวัดเพื่อความยั่งยืน คือถนนเส้นทางในการเข้าถึงโอกาสแห่งความเข้าเท่าเทียม การดูแลผู้เดือดร้อน การดูแลผู้มีรายได้น้อย คือการสร้างความเป็นธรรม ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนต้องช่วยกันเพื่อให้ทั้ง 2 อย่างนี้ไปด้วยกันได้ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคธุรกิจ และประชาชนในพื้นที่ที่เสียสละที่ดิน รวมทั้งผลักดันโครงการจนกระทั่งสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในวันนี้ ตามแนวทาง "รวมไทยสร้างชาติ" ที่รัฐบาลมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งคาดหวังว่า ทุกคนจะมีความรัก ความหวงแหน ความสามัคคีกัน ร่วมทำเพื่อประเทศชาติ