ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยว่า การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 6.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียยังคงขยายตัวแข็งแกร่งและสามารถยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤตการณ์ตลาดสินเชื่อในสหรัฐ
ธนาคารกลางได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า "ปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อสหรัฐไม่ได้ทำให้แนวโน้มโดยรวมของเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงแข็งแกร่ง และตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ธนาคารกลางจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในวันนี้ นอกจากนี้ เราเชื่อว่าแม้วิกฤตการณ์ตลาดสินเชื่อทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง แต่เศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวขึ้นได้อีก"
นายบิลล์ อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากเวสท์แพค แบงกิ้ง คอร์ป "การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้เหมือนเป็นการย้ำว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตลาดสินเชื่อในสหรัฐไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของออสเตรเลีย และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้เป็นเพราะตัวเลขเงินเฟ้อภายในประเทศพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในไตรมาสที่ 2"
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ไตรมาส 2 ของออสเตรเลียพุ่งขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี นับเป็นสถิติที่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--