"สิทธิชัย"เตือนงานเร่งด่วนบอร์ดทีโอทีสรรหาเอ็มดี ปัญหาขัดแย้งเรื่องรอง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 24, 2007 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ระบุว่า คณะกรรมการ บมจ.ทีโอที ควรจะเร่งสรรหาผู้ที่เหมาะสมมารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ให้เร็วที่สุด โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญในเชิงธุรกิจเพื่อให้องค์กรสามารถแข่งขันกับเอกชนได้ในภาวะที่ธุรกิจโทรคมนาคมมีการแข่งขันสูง
ส่วนกระแสความขัดแย้งหรือการปรับเปลี่ยนบอร์ดทีโอทีนั้น เห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญรองลงมา ซึ่งยังไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง เพราะอีกไม่นานบอร์ดก็จะหมดวาระลงไปพร้อมกับรัฐมนตรี เนื่องจากจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามารับหน้าที่ในอีกไม่กี่เดือนอยู่แล้ว
"ปัญหาเร่งด่วนขณะนี้ คือต้องหากรรมการผู้จัดการใหญ่มาแทนคุณสมควร ส่วนบอร์ดนั้นโดยมารยาทแล้วจะพ้นหน้าที่พร้อมรัฐมนตรี ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดในระยะนี้แล้วบอร์ดใหม่เข้ามาก็เหลือเวลาทำงานแค่ 3-4 เดือน แต่กว่าจะตั้งตัวได้ก็ 1-2 เดือน ดังนั้นเรื่องเปลี่ยนบอร์ดผมไม่ได้เห็นว่าเป็นประเด็นที่สำคัญตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องหากรรมการผู้จัดการใหญ่ที่เก่งและเป็นนักธุรกิจพอสมควร" รมว.ไอซีที กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
นายสิทธิชัย กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งในองค์กรของทีโอทีถือว่ามีมานานมากแล้ว ซึ่งทำให้สถานภาพขององค์กรในปัจจุบัน
อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ โดยปีนี้รายได้ที่รัฐควรจะได้รับจากการให้สัมปทานค่าเชื่อมโยงโครงข่ายกลับหายไปเป็นหมื่นล้านบาท ในขณะที่ยังมีความขัดแย้งกันเองระหว่างผู้บริหาร จึงทำให้บอร์ดไม่มีเวลาจะดูแลและแก้ไขปัญหาเรื่องธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการแข่งขันของทีโอทีไม่สามารถสู้กับภาคเอกชนได้
"วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีโอทีเป็นองค์กรที่อยู่ในสถานภาพที่แย่มาก จากการที่ถูกแทรกแซงทางการเมืองมาในรัฐบาลยุคก่อน ทำให้สถานภาพทางการบริหารและการเงินอ่อนแอลงมาก สถานการเงินปีนี้เข้าสู่วิกฤตเพราะเงินสัมปทานจากค่าเชื่อมโยงโครงข่ายหายไปเป็นหมื่นล้าน...ทีโอทีเหมือนถูกสาป เป็นองค์กรที่น่าสงสาร มีแต่คนคิดจะทำลาย ตักตวงผลประโยชน์ ซึ่งผมก็ดีใจที่ผมเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน ถ้าเหลือเวลาเยอะผมคงจะขอลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว" นายสิทธิชัย กล่าว
นายสิทธิชัย กล่าวว่า โอกาสที่ทีโอทีจะล้มละลายมีความเป็นไปได้สูงในระยะเวลาไม่นานจากนี้ไป หากรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาไม่ดูแลและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมเห็นว่าหากในอนาคตทีโอทีต้องล้มละลายจริงก็คงไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อประชาชน เพราะปัจจุบันมีเอกชนเข้ามาให้บริการในรูปแบบเดียวกับทีโอทีและเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้อีกมาก
"ถ้าทีโอทีล้มละลายไปสังคมจะกระเทือนน้อยมากตอนนี้ เพราะช่องทางสื่อสารมีทางเลือกมากขึ้น ทีโอทีเลยไม่ได้เป็นองค์กรที่มีความสำคัญทางพื้นฐานอีกต่อไปถ้าไม่ปรับปรุงให้ดี และไม่เป็นองค์กรหลักของกระทรวงการคลังอีกต่อไป เพราะรายได้ที่ส่งคลังเกือบจะไม่เหลือในปีนี้" รมว.ไอซีที กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ