"ปรีดิยาธร"มองค่าเงินบาทขณะนี้มีเสถียรภาพ แนะคงมาตรการกันสำรอง 30%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 15, 2007 20:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า ค่าเงินบาทปัจจุบันมีเสถียรภาพอยู่ที่ 34 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งผู้ส่งออกสามารถส่งออกแข่งขันกับประเทศอื่น ดูจากตัวเลขการส่งออกยังเติบโต โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้ออกมาตรการดูแลทั้ง real sector ที่ควบคุมเงินไหลเข้าออก และดูแลทั้งอัตราเงินเฟ้อควบคู่ไปด้วย 
ซึ่งตรงกับความเห็นของนายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรมว.คลัง นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาเกียรติคุณ และรักษาการประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ที่ระบุว่าธปท.ควรจะมีการบริหารจัดการค่าเงินบาทแบบ manage float มากกว่า free float นอกจากนี้ รัฐบาลควรเข้ามาดูแลด้วยไม่ควรปล่อยให้ธปท.ดูแลเพียงลำพัง
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังเห็นว่า ธปท.ควรคงมาตรการกันสำรอง 30% และทำ Fully Headge 100% เพื่อรองรับความผันผวนของตลาดเงิน และกระแสเงินที่จะไหลทะลักเข้ามาในเอเชีย ส่วนแนวคิดที่จะมีการเก็บภาษีเงินทุนไหลออกเพื่อดูแลค่าเงินบาทนั้น เห็นว่าไม่ควรนำมาตรการนี้มาใช้ เพราะจะมีผลกระทบกับนักลงทุนทั้งทางตรง และทางจิตวิทยามากกว่ามาตรการกันสำรอง 30%
"แบงก์ชาติก็พยายามดูแลบริหารจัดการค่าเงิน ถ้าประเทศอื่นมีค่าเงินแข็งค่าขึ้น ค่าเงินบาทก็จำเป็นต้องแข็งค่าขึ้นตาม เพราะหากไม่ปล่อยให้แข็งค่า ภาคอุตสาหกรรมก็จะไม่ปรับตัว รองรับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ส่วนกรณีให้ควบคุมการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดไม่ให้เกิน 2%ของจีดีพีนั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมอย่างที่หลายฝ่ายเสนอแนะ
ส่วนปัญหา ซับไพรม์ของสหรัฐ จะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทย แต่ในทางอ้อมรัฐบาลและธปท.ควรที่จะจับตามอง เพราะปัญหาดังกล่าว อาจจะลุกลามไปสู่ตลาดการเงิน เพราะกระแสทุนโลกเคลื่อนไหวเร็วและแปรปรวน
ขณะที่ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก เกิดจากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีสัดส่วนลงทุนประมาณ 30-40% ของตลาดรวม ซึ่งเงินลงทุนของต่างชาติอยู่ตลอดเวลา ต่างจากเงินลงทุนในประเทศที่มีสัดส่วน 60% ที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวมาก ทำให้ตลาดหุ้นไทยถูกครอบงำโดยนักลงทุนต่างชาติ ถือเป็นความเสี่ยงที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) หาทางป้องกันและส่งเสริมให้นักลงทุนในประเทศมีบทบาทในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ