นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวในงานเปิดตัวโครงการ Smart Sign On ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมของประเทศว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการจากภาครัฐ ดังนั้นกระทรวงฯ จึงมุ่งส่งเสริมการนำเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเทอร์เน็ตมาเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ช่วยกระจายโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น สอดรับกับวิสัยทัศน์ที่ต้องการผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศไทย 4.0
โครงการนี้นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่ประชาชนแล้ว ยังมีอีกมิติหนึ่งคือการพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการผลักดันและสร้างสิ่งดี ซึ่งจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติไปสู่อนาคตได้อย่างเข้มแข็งและก่อให้เกิดความภูมิใจในการสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมร่วมกัน
ด้านนางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กล่าวว่า การริเริ่มจัดทำโครงการ Smart Sign On เกิดจากความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยจัดให้มีระบบตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะที่เชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง รวมทั้งบูรณาการร่วมกับโครงการบริการอินเทอร์เน็ตชายขอบซึ่งผู้ใช้บริการลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว แต่จะสามารถใช้บริการ Free Wi-Fi ได้จากผู้ให้บริการทุกรายที่เข้าร่วมโครงการ เช่น โครงการ Smart City จังหวัดภูเก็ต โครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชน รวมทั้งการให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะของผู้ให้บริการภาคเอกชน
การจัดทำโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตชั้นนำ โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) , บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) รวมทั้ง บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ที่ร่วมบูรณาการในการพัฒนาการให้บริการระบบตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้งาน (Smart Sign On) ได้เป็นผลสำเร็จ โดยในขณะนี้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวสามารถใช้งานได้แล้วที่จุดให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีในที่สาธารณะที่กระจายอยู่ตามสถานที่ชุมชน อาทิ สถานศึกษา สถานบริการภาครัฐ สถานีขนส่ง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ โดยประชาชนทั่วประเทศทั้งที่เป็นผู้ใช้งานใหม่และผู้ใช้งานรายเดิมสามารถเข้าใช้งาน Free Wi-Fi นี้ได้ในชื่อบริการ GTH Wi-Fi ด้วย Username และ Password เดียวกันทั้งในรูปแบบ Web Portal uas Mobile Application