นายคล้อด แมนดิล ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวให้สัมภาษณ์กับวารสาร อาหรับ ออยล์ แอนด์ แก๊ส ว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กำหนดเป้าหมายราคาน้ำมันอย่างไม่เป็นทางการไว้ที่ระดับ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลนั้น อาจส่งผลต่อการขยายตัวด้านการผลิตน้ำมัน
นอกจากนี้ นายแมนดิลกล่าวว่า ปริมาณน้ำมันในสต็อกจะต้องมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันขยายตัวเพิ่มขึ้น 2% ต่อปี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายแมนดิลกล่าวว่า โอเปคมีมุมมองที่ถูกต้องแล้วที่เห็นว่า ขณะนี้ตลาดมีสัดส่วนอุปทานในระดับที่เหมาะสม แต่เขากล่าวเสริมว่า สิ่งที่เราให้ความสนใจมากที่สุดคือสถานการณ์ตลาดในอนาคต หรือในปลายปีนี้
"นับจากนี้เป็นต้นไป โรงกลั่นน้ำมันต้องเริ่มเดินหน้าทำการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้พลังงานในฤดูหนาว ดังนั้นเราจำเป็นต้องใช้น้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้น แต่โอเปคกลับส่งสัญญาณว่าจะไม่เพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างที่เราคาดหวังไว้"
นอกจากนี้ จากข้อซักถามถึงผลกระทบของวิกฤติซับไพรม์สหรัฐที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมพลังงานนั้น นายแมนดิลกล่าวว่า วิกฤติซับไพรม์เป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าอาจเป็นชนวนที่ทำให้เกิดผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
"หากประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีความกังวลตต่อผลกระทบที่มีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างแท้จริง พวกเขาจะต้องพยายามหาทางแก้ปัญหาที่ถูกจุดในการปรับลดราคาน้ำมัน เพื่อชดเชยผลกระทบจากการขาดแคลนพลังงานที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม"นายแมนดิลกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--