เจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ปัญหาต่างๆที่เกิดจากวิกฤติตลาดซับไพรม์ของสหรัฐจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคธุรกิจการเงินของญี่ปุ่น แต่ทางการจะจับตาดูสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าจะมีผลพวงจากปัญหาดังกล่าวใดๆหรือไม่ รวมถึงผลกระทบของวิกฤติซับไพรม์ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
โคจิ โอมิ รัฐมนตรีกระทรวงคลังของญี่ปุ่นกล่าวว่า ภาคธุรกิจการเงินของญี่ปุ่นไม่ได้นำเม็ดเงินไปลงทุนในตลาดซับไพรม์มากนัก ดังนั้นปัญหาเกี่ยวกับเงินกู้จะไม่มีอิทธิพลที่รุนแรงต่อธุรกิจการเงินของญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่นได้อัดฉีดเม็ดเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบการธนาคารโดยมีเป้าหมายที่จะคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อ อันเป็นผลมาจากกระแสหวั่นวิตกเกี่ยวกับตลาดซับไพรม์และภาวะขาดทุนของกลุ่มสถาบันการเงินและกองทุนประกันความเสี่ยงที่นำเงินไปลงทุนในตลาดซับไพรม์และในหลักทรัพย์ประเภทสินทรัพย์ต่างๆ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังและฮิโรโกะ โอตะ รัฐมนตรีฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการเงินกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะจับตาดูผลกระทบของวิกฤติตลาดซับไพรม์ที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ โอตะยังกล่าวด้วยว่า วิกฤติตลาดซับไพรม์ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายร้ายแรงมายังระบบเศรษฐกิจสหรัฐเท่านั้น แต่อาจส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องในส่วนของการทำธุรกรรมผิดกฏหมายเกี่ยวกับการกู้เงินที่คาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--