นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือกับนายสแตนลีย์ คัง (Stanley Kang) ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand: JFCCT) พร้อมด้วยผู้บริหาร และสมาชิกหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทยว่า JFCCT ได้ขอให้ช่วยเหลือเรื่องการขยายอายุวีซ่าสำหรับต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยประมาณ 2 ล้านคนให้สามารถพำนักต่อไปได้อีกหลังจะครบกำหนดในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เพื่อจะได้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการพัฒนาและส่งเสริมสินค้าเกษตรของไทยเพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากในระดับท้องถิ่นและระดับชุมชน ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิการทางอุตสาหกรรมการเกษตร โดยนายอนุชา เน้นย้ำว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้เร่งปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ ประธานหอการค้าฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยที่ยังเป็นประเทศเป้าหมายด้านการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ พร้อมร่วมมือส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs การส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาสินค้าเกษตร และการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน โดยแสดงความชื่นชมการพัฒนาสินค้าเกษตรของไทย ซึ่งทาง JFCCT ได้มีส่วนช่วยพัฒนาและประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในการให้คำแนะนำแก่กลุ่มเยาวชนและเกษตรกรในพื้นที่ รวมทั้งมีแนวทางที่จะนำสินค้าเกษตรของไทยส่งออกไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น