ธปท.มองแนวโน้มเงินบาทปีหน้าอ่อนค่าตามคาดการณ์เกินดุลบัญชีฯน้อยลง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 24, 2007 12:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ สายเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ในปี 51 เงินบาทมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลง เนื่องจากคาดว่าประเทศไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงจากปีนี้ 
อย่างไรก็ตาม เงินบาทไม่ว่าจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าก็มีทั้งผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ สิ่งที่ ธปท.ทำได้ คือ การดูแลความสามารถการแข่งขันในภาพรวม โดยในระยะสั้นธปท.จำเป็นต้องดูแลค่าเงินบาทให้แข็งค่าช้าลง เนื่องจากขณะนี้การส่งออกยังเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
"ถ้าความต้องการใช้จ่ายในประเทศฟื้นตัวขึ้นก็คงไม่เป็นไรถ้าเศรษฐกิจโลกจะชะลอไป แต่หากขณะที่การลงทุน การบริโภคในประเทศยังไม่มีก็ต้องดูแลต่อไป เพราะมีส่งออกตัวเดียวที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" นางอัจนา กล่าวในหัวข้อ"วิกฤติแรงงานจากพิษค่าเงินบาทแข็ง"
แต่ในระยะยาวก็เห็นว่าไม่มีประเทศไหนที่อยู่ดีกินดีได้ในภาวะที่ค่าเงินอ่อนค่า
"ใครจะอยู่ได้ ถ้าขายของถูก แต่ซื้อของแพง" นางอัจนา กล่าว
นางอัจนา กล่าวต่อว่า ภาวะการแข็งค่าของเงินบาทนั้นส่วนหนึ่งเป็น เพราะระยะนี้การนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าอุปโภคบริโภคยังมีไม่มากนัก จึงกลายเป็นการสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินบาท ประกอบกับ ขณะนี้ยังมีเงินทุนเคลื่อนย้าย 1.5 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งรับประกันไม่ได้ว่าจะไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากแค่ไหน
ธปท.ต้องดูจังหวะในการเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทตามความจำเป็น ขณะที่การแทรกแซงของแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน เพราะมีความพร้อมที่แตกต่างกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ