รัฐค้างจ่ายเงินโรงสี-โกดังข้าวเกือบ 1.7 พันลบ. หวั่นกระทบรับจำนำปีหน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 28, 2007 18:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          แหล่งจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์การคลังสินค้า(อคส.)ไม่มีเงินเพียงพอสำหรับบริหารจัดการสต็อกข้าวของรัฐบาลที่มีปริมาณสูงถึง 4 ล้านตัน จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทั้งนาปีและนาปรัง ปี 47/48, 48/49 และ 49/50 
ซึ่งสต็อกข้าวจำนวนนี้ได้รวมข้าวที่บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ขอยกเลิกสัญญารับมอบอีก 1 ล้านตันด้วย โดยคิดเป็นเงินที่อคส.ค้างชำระค่าเช่าโกดัง, ค่ารมยา, ค่าเซอร์เวเยอร์ เป็นต้น สูงถึงเกือบ 1,700 ล้านบาท ซึ่งทั้งโรงสี เจ้าของโกดัง และบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) ต่างทวงถามอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวกล่าวว่า เหตุที่อคส.ยังไม่มีเงินชำระค่าบริหารจัดการสต็อก แม้ได้ทำเรื่องเบิกเงินดังกล่าวจากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.)ที่มีนายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานมาตั้งแต่การประชุมคชก.วันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา และคชก.ได้อนมุติในการหลักการไปแล้ว เป็นเพราะนายโฆสิต ยังไม่เซ็นอนุมัติการเบิกจ่าย
"เรื่องยังค้างอยู่บนโต๊ะทำงาน ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุใดจึงยังนิ่งเฉย ทั้งๆ ที่ทั้งโรงสี เจ้าของโกดังเหล่านั้นเดือดร้อนหนัก และไม่มีเงินทุนหมุนเวียนทำธุรกิจแล้ว" แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ อคส.ยังติดหนี้โรงสีและเจ้าของโกดังบางรายอยู่ถึง 20-30 ล้านบาท ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับโรงสีและเจ้าของโกดังอย่างมาก จนบางรายถึงขั้นขู่จะเอาข้าวที่รัฐฝากเก็บไปขายให้หมดแม้จะมีความผิดแต่ก็ยอมเพื่อนำเงินมาทำธุรกิจต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า หากเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้อาจจะทำให้โครงการรับจำนำข้าวในฤดูกาลผลิตปี 50/51 มีปัญหาได้ เพราะจะไม่ได้รับความร่วมมือจากโรงสี และโกดังเก็บข้าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ