นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ได้จัดพิธีมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุตามโครงการ "ธนารักษ์ประชารัฐ" โดยได้นำที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นว 339 มาจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนในพื้นที่ อำเภอท่าตะโก อำเภอสนามชัย จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 2,078 ราย คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 2,071 ไร่ เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการเข้าครอบครองที่ดินในพื้นที่ราชพัสดุให้ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะเดียวกันเอกสารสิทธิ์ยังสามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อเพื่อการเกษตรกับสถาบันการเงินต่อไปได้
โดยพื้นที่ทั้งหมดของบึงบอระเพ็ดกว่า 130,000 ไร่ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของบ่อเก็บน้ำที่มีพื้นที่กว่า 50,000 ไร่ พื้นที่หวงห้าม เพื่อใช้ทำประโยชน์อื่นๆ ที่ห้ามประชาชนบุกรุก และอีกส่วนก็ได้จัดให้เป็นพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยสำหรับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากเข้าไปถือครองที่ดิน โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบของกรมธนารักษ์เป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้กรมธนารักษ์ได้เข้าไปดำเนินการเจรจาแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง และได้ข้อยุติในปี 2562 ที่ประชาชนยอมรับเงื่อนไขในการเช่าที่ทำกินบนพื้นที่ราชพัสดุ ด้วยอัตราเช่าที่ผ่อนปรนเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวประสบกับปัญหาภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง และห่างไกลจากเขตชลประทาน ทำให้เกษตรกรต้องอาศัยน้ำเพื่อทำการเกษตรในช่วงฤดูฝนเท่านั้น ส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรที่น้อยกว่าพื้นที่อื่น
สำหรับอัตราค่าเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบอาชีพเกษตรในพื้นที่ดังกล่าว แบ่งเป็นอัตราเรียกเก็บตามเนื้อที่ที่ได้รับสิทธิครอบครอง โดยเนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ อัตราไร่ละ 20 บาทต่อปี เนื้อที่เกินกว่า 50 -200 ไร่ อัตราไร่ละ 30 บาทต่อปี เนื้อที่เกิน 200 -500 ไร่ อัตราไร่ละ 40 บาทต่อปี เนื้อที่เกิน 500-1,000 ไร่ อัตราไร่ละ 50 บาทต่อปี เนื้อที่เกิน 1,000 ไร่ อัตราไร่ละ 60 บาทต่อปี
อย่างไรก็ตามในปีงบประมาณ 2563 กรมธนารักษ์มีเป้าหมายการจัดสรรที่ทำกินในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ภายใต้โครงการ "ธนารักษ์ประชารัฐ" จำนวน 16,385 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอตากฟ้า อำเภอไพศาลี และอำเภอท่าตะโก โดยจะมอบให้กับประชาชนจำนวน 3,000 ราย ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดประกอบอาชีพ ทำไร่อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด และพืชอื่นๆ
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า สำหรับบริเวณพื้นที่บึงบอระเพ็ด จำนวน 50,000 ไร่ ยังมีประชาชนบุกรุกบางส่วน ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการเข้าไปเจรจาเพื่อขอให้ออกจากพื้นที่แล้ว และได้ดำเนินการหาที่อยู่ใหม่ให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ดินซึ่งเป็นแบบเช่าต่อปี เป็นพื้นที่น้ำท่วมถึงมีประชาชนจำนวน 3,000 ราย อยู่ระหว่างขอยื่นเช่าพื้นที่ ส่วนพื้นที่ปกติที่ชาวบ้านใช้เป็นที่อยู่อาศัย จำนวนกว่า 7,000 ไร่ ขณะนี้ได้ดำเนินการไปบางส่วน คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปีนี้ ส่วนการแก้ปัญหาภัยแล้งก็ได้มีการบูรณาการทุกภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา และวางมาตรการในระยะยาว เพื่อที่พื้นที่บริเวณนี้จะได้เป็นพื้นที่ทำกินของประชาชนอย่างยั่งยืน
"ที่ผ่านมามีปัญหาบ้างในหลายจังหวัดในการเข้าไปขอพื้นที่คืนเพื่อให้เป็นพื้นที่เช่าราชพัสดุโดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากเป็นการเข้าใจผิดของชาวบ้านบางกลุ่ม แต่กรมธนารักษ์ก็ได้ดำเนินการลงไปทำความเข้าใจ และอธิบายให้ทราบถึงความจำเป็นก็ทำให้ชาวบ้านเข้าใจ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี" นายยุทธนา กล่าว
สำหรับเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ ภายใต้โครงการ "ธนารักษ์ประชารัฐ" เพื่อรองรับสิทธิให้แก่ผู้ครอบครองที่ราชพัสดุให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 จำนวนทั้งสิ้น 73,427 ราย เนื้อที่ประมาณ 1.051 ล้านไร่ โดยจะมีการดำเนินงานของโครงการเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเครื่องมือในการรังวัดพื้นที่ และการตรวจสอบสิทธิ์เป็นอย่างราบรื่น เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ปัจจุบันสามารถพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินต่อแปลงให้แล้วเสร็จได้ภายใน 1-2 เดือน จากเดิมใช้เวลา 1-2 ปี