แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการระบายข้าวสาร ที่มีนายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เตรียมประชุมเพื่อกำหนดปริมาณข้าวในสต็อกรัฐบาลที่จะเปิดระบายในแต่ละรอบ ตามแผนที่เสนอให้ระบายข้าวปริมาณ 6.5 แสนตัน โดยจะต้องระบายข้าวภายใน 2-3 เดือนนี้ จากสต็อกข้าวที่มีจำนวนทั้งหมดประมาณ 4 ล้านตัน ซึ่งรวมข้าวที่บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ขอยกเลิกสัญญารับมอบข้าวแล้ว 1 ล้านตัน
สาเหตุที่ต้องเร่งระบายข้าว เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลต้องแบกรับค่าใช้จ่ายจำนวนมากจากการบริหารสต็อกข้าว 4 ล้านตัน รวมแต่ละปีต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 1.2 พันล้านบาท อาทิ ค่าเช่าโกดัง, ค่ารักษาคุณภาพข้าว และค่าจ้างเซอร์เวเยอร์ เป็นต้น รวมทั้งยังเจอปัญหาการทุจริตข้าวในโกดังรัฐบาลจากการมีปริมาณข้าวในสต็อกที่มากเกินไป
นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมาะสมกับที่จะเปิดระบายข้าว เพราะคู่แข่ง เช่น เวียดนาม อินเดีย และปากีสถานไม่มีข้าวสำหรับส่งออกแล้ว แต่ปริมาณความต้องการซื้อข้าวยังมีอีกจำนวนมากขึ้นจากทั้งเกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
นายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากบริษัทเพรซิเดนท์ ซึ่งหากพ้นจากวันนี้ไปแล้ว อคส.จะยึดสต็อกข้าวกลับคืนมาเป็นของรัฐ และจะเปิดระบายข้าวตามแผนที่วางไว้
นางอรนุช โอสถานนท์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้าวสารในโกดังสัญญารับมอบข้าวของเพรซิเดนท์ พบว่ายังเป็นข้าวคุณภาพดีเกินกว่า 90% จากปริมาณ 1 ล้านตัน ดังนั้นจึงไม่น่าจะเกิดปัญหาที่จะเปิดประมูลใหม่ แต่การนำข้าวที่เสื่อมสภาพออกมาประมูลใหม่หากได้ส่วนต่างราคาน้อยกว่าราคาที่ประมูล เพรซิเดนท์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--