นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เชื่อว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากปกติแล้วในไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการสามารถขายโครงการได้มากที่สุด ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับธนาคารพาณิชย์จะเร่งปล่อยสินเชื่อในช่วงนี้ โดยในส่วนของ ธอส.นั้นการปล่อยสินเชื่อจะเติบโตมากในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.
อย่างไรก็ดี มองว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ไม่ถือว่าอยู่ในภาวะ Over Supply เหมือนช่วงปี 39-40 ที่เกิดภาวะฟองสบู่แตก เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้ซื้อบ้านไว้เพื่อการเก็งกำไรแต่เป็นเพราะความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริงมากกว่า ดังนั้นในขณะนี้จึงเรียกว่าอยู่ในภาวะเกือบสมดุล
สำหรับภาวะเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับการดำเนินกิจกรรมของนักลงทุนต่างชาติค่อนข้างมาก เช่น ปัญหา sub-prime ของสหรัฐฯที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นของไทย แต่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากไปกว่านี้ เนื่องจากล่าสุดตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวดีขึ้นแล้ว ประกอบกับ 3 เดือนจากนี้ไปจะเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งและคาดว่าจะได้รัฐบาลใหม่ในเดือน ม.ค.51 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่นิ่งมากขึ้น
นายขรรค์ ยังกล่าวถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จะมีการพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)สัปดาห์นี้ว่า แนวโน้มน่าจะเป็นไปใน 2 ทิศทาง คือ ถ้าไม่ปรับลดลงก็จะทรงตัว แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) ด้วย แต่ส่วนตัวแล้วเห็นว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
พร้อมกันนี้เชื่อว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงจะทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ช่วงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์จะเป็นที่ต้องการมากกว่า
กรรมการผู้จัดการ ธอส.ยังกล่าวถึงการดำเนินการของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ว่า ได้วางเป้าหมายให้อีก 5 ปีหน้า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ ธอส.ในปัจจุบันจะแปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัดหรือเป็นองค์กรอิสระ และเห็นว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้รวบรวมไว้จะเป็นข้อมูลที่มีราคาในอนาคตและเป็นรายได้เลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณของรัฐ
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/กษมาพร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--