นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า สมาคมการค้ายาสูบไทย ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิก โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลาถึงเรื่องบุหรี่เถื่อนที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากร้านค้าบุหรี่เถื่อนเปิดขายกันอย่างเสรี และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี แม้ช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่มีการปิดด่านพรมแดน รวมทั้งมีการรายงานข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่เป็นระยะๆ แต่ร้านค้าที่ขายบุหรี่หนีภาษีเหล่านี้ก็ยังขายได้ตลอด และส่วนใหญ่เป็นบุหรี่ไม่มีแสตมป์ของกรมสรรพสามิต ซึ่งหมายความว่าบุหรี่หนีภาษีที่จับกุมได้นั้นเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
จากข้อมูลการจัดเก็บภาษียาสูบของกรมสรรพสามิต ระบุว่า บุหรี่ที่เสียภาษีสร้างรายได้ภาษีส่วนกลางให้รัฐบาล 67.4 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ การค้าบุหรี่ถูกกฎหมายยังต้องเสียภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซองละ 1.86 บาทด้วย โดยก่อนปี 2560 เคยสร้างรายได้ให้ อบจ.ทั่วประเทศกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี แต่หลังจากการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งล่าสุดอย่างก้าวกระโดดเป็นประวัติการณ์ ทำให้รายได้ในส่วนนี้ลดลงเหลือเพียงไม่ถึง 2,500 ล้านบาทต่อปี
นางวราภรณ์ กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดที่สมาคมฯ ได้รับจาก อบจ.สงขลา พบว่ารายได้ภาษีบุหรี่เก็บได้ลดลงทุกปี โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 อบจ. สงขลา เก็บภาษีจากการค้ายาสูบได้เพียง 8 ล้านบาท ต่ำกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 30% ซึ่งทาง อบจ. ทราบดีว่าเป็นผลจากการแพร่หลายของบุหรี่หนีภาษีในจังหวัด และคาดว่าในปีงบประมาณ 2564 อาจเก็บได้น้อยลงอีก
นอกจากนี้ ตัวแทนร้านค้าในจังหวัดสงขลาที่ได้รับผลกระทบ เคยร้องเรียนถึงปัญหาบุหรี่เถื่อนว่า ทุกวันนี้มีการขายบุหรี่เถื่อนในร้านค้าต่าง ๆ อย่างเสรี และขายกันในปริมาณมาก เนื่องจากบุหรี่เถื่อนมีราคาถูกกว่าบุหรี่เสียภาษีตามกฎหมายถึงครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งพอมีการกวดขันจับกุม บุหรี่เถื่อนก็จะหายไปสักพัก แต่หลังจากไม่มีข่าวการจับกุมก็จะกลับมาขายได้อีก ดังนั้นจึงต้องการให้ผู้ที่รับผิดชอบปราบปรามการค้าบุหรี่เถื่อนอย่างจริงจัง เพราะร้านค้าที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบอย่างหนัก
"ก่อนหน้านี้สมาคมฯ ได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ว่าราชการ จ.สงขลา สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา ให้ช่วยดูแลความเดือดร้อนของร้านค้ายาสูบ และช่วยประสานไปถึงหน่วยงานที่ดูแลให้มีการปราบปรามร้านค้าที่ขายบุหรี่หนีภาษี และผู้ที่ลักลอบนำเข้าบุหรี่หนีภาษีให้เข้มข้นยิ่งขึ้น และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อมิให้ซ้ำเติมร้านค้าโชห่วยที่สุจริตในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และปกป้องรายได้ภาษีของภาครัฐในภาวะที่กระทรวงการคลังจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณมหาศาลเพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ" นางวราภรณ์ กล่าว