น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้บริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม สำหรับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 1/2522/16 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข S1 (พื้นที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก และกำแพงเพชร) ออกไปอีก 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.64 ถึงวันที่ 14 มี.ค.74
กระทรวงพลังงานได้รายงานว่า ได้นำเสนอเรื่องการต่อเวลาดังกล่าวให้คณะกรรมการปิโตรเลียมพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้รับสัมปทานปฏิบัติครบถ้วนตามบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมและข้อกำหนดของสัมปทานปิโตรเลียม รวมทั้งแผนดำเนินงาน แผนการลงทุน ระยะเวลาการผลิต และผลประโยชน์เพิ่มเติมที่เสนอให้แก่รัฐมีความเหมาะสมและมีสมรรถนะเชิงพาณิชย์ คณะกรรมการปิโตรเลียมจึงมีมติอนุมัติต่อระยะเวลาออกไปให้ 10 ปี ก่อนที่จะนำมาเสนอ ครม.ตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตว่า การขุดเจาะปิโตรเลียมด้วยวิธี Hydraulic Fracturing โดยการฉีดน้ำผสมทรายและสารเคมีลงไปในหลุมเพื่อให้เกิดรอยแตกในชั้นหินและให้น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติไหลออกมา อาจทำให้สารที่ใช้รั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำบาดาลได้ หากดำเนินการอย่างไม่ระมัดระวังและขาดการควบคุมที่ดี ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พื้นที่เกษตรกรรมและการประมง รวมถึงสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบ ดังนั้นจึงเห็นควรให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติตรวจสอบและควบคุมผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมแปลงสำรวจบนบกทุกรายที่ใช้วิธีขุดเจาะเดียวกันนี้ให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบรัดกุม ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามมาตรฐาน หลักเกณฑ์และข้อบังคับที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด