นาง
พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท
วายแอลจี บูลเลี่ยน จำกัด กล่าวในงานสัมมนา "เจาะกลยุทธ์การลงทุน หุ้น ทองคำ
ตราสารหนี้ กองทุน ในช่วงโควิด-19" ว่า
ราคาทองคำมีโอกาสกลับมาเห็น 2,000 เหรียญ
สหรัฐฯ/ออนซ์ อีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ จากช่วงเดือนมี.ค.63
ราคาทองคำได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 2,075.10 เหรียญ
สหรัฐฯ/ออนซ์ และคาดว่าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2,200 เหรียญ
สหรัฐฯ/ออนซ์ ในปี 64 ส่วนในปี 65 มองอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากการขายทำกำไรระหว่างทาง จากปัจจุบัน
ราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,850 เหรียญ
สหรัฐ/ออนซ์ โดยแนะหากหลุดระดับดังกล่าว จะมีแนวรับใหญ่ที่ 1,750 เหรียญ
สหรัฐฯ/ออนซ์ ซึ่งมองเป็นโอกาสเข้าสะสม แต่ถ้าไม่หลุดก็ยังเป็นโอกาสในการเข้าสะสมได้ เนื่องจากมอง
ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1,880-1,900 เหรียญ
สหรัฐฯ/ออนซ์ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1,920 เหรียญ
สหรัฐฯ/ออนซ์
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ โดยปัจจัยหนุนจะมาจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากธนาคารกลางและการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังจากรัฐบาล, ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีน, การเลือกตั้งสหรัฐฯ, กระแสเงินทุนไหลเข้าทองคำ ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19, สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ, แรงขายทำกำไรทางเทคนิค และแรงขายทอง เพื่อชดเชยผลขาดทุนในสินทรัพย์อื่นๆ และอุปสงค์ทองคำที่ซบเซา รวมถึงแรงซื้อทองคำจากทางธนาคารกลางทั่วโลกที่ลดลง
พร้อมกันนี้แนะนักลงทุนควรมีทองคำอยู่ในพอร์ตการลงทุนราว 5-30% เพื่อทำกำไรมากขึ้น รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนในช่วงที่หุ้นปรับตัวลง
--อินโฟเควสท์ โดย พชรธร ภูมิคำ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--