นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมวันนี้ มีมติให้กองทุนเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SME)ซึ่งมีขนาด 5 พันล้านบาท เริ่มปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการได้ตั้งแต่บัดนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนดร่วมกับธนาคารพาณิชย์
ขณะนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ยินดีจะรับฟังแนวคิดให้ขยายวงเงินกองทุนจาก 5 พันล้านบาท แต่ขอให้สมาคมธนาคารไทยไปดำเนินการกองทุนที่ได้รับอนุมัติไป 5 พันล้านบาทให้มีประสิทธิภาพก่อน
ส่วนแนวทางด้านอื่น ๆ ที่จะช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทนั้น กระทรวงพาณิชย์ยังเสนอแนวทางการปรับตัวทางธุรกิจด้วยการส่งเสริมให้บริษัทเอกชนขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว แต่อยากให้มีความชัดเจนเพื่อเป็นมาตรการที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการปรับสถานะการแข่งขันของประเทศมากกว่าที่จะเป็นเพียงมาตรการทั่ว ๆ ไปที่มีผลในด้านเดียว อีกทั้งไม่ต้องการให้เกิดผลเสียตามมาเช่นการเลิกจ้างงาน
ดังนั้น ที่ประชุมจึงมอบหมายให้คณะทำงาน ซึ่งได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง สภาหอการค้าไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ไปหารือในรายละเอียด โดยเฉพาะสาขาของอุตสาหกรรมที่จะส่งเสริมให้ไปลงทุนต่างประเทศ รวมถึงมาตรการจูงใจ โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะนำกลับมาเสนออีกครั้ง
ส่วนการสนับสนุนให้คนไทยไปลงทุนในต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)จะใช้เวลาพิจารณารายละเอียดราว 1-2 สัปดาห์ เพราะยังต้องมีการแก้ไขประกาศกระทรวงการคลังในบางประเด็น
นายโฆสิต กล่าวอีกว่า การประเมินผลมาตรการดูแลปัญหาเงินบาทแข็งค่านั้น ที่ประชุมพอใจมาตรการที่ออกไปทั้ง 6 มาตรการ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แต่ให้มีการติดตามเฝ้าระวัง โดยที่ประชุมไม่ได้กำหนดเป้าหมายว่าค่าเงินบาทควรจะเป็นเท่าใด แต่ดูสถานการณ์ให้มีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--