โฆษกคลังเผย ก.ค.ขาดดุลเงินสดกว่า 5 หมื่น ลบ.ไม่กระทบฐานะความแข็งแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 15, 2007 13:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดว่า รายได้นำส่งคลังในเดือน ก.ค.50 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลส่งผลให้ดุลเงินสดขาดดุล 51,157 ล้านบาท
และในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ(ต.ค.49-ก.ค.50) รัฐบาลขาดดุลเงินสดทั้งสิ้น 240,860 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลชดเชยการขาดดุลโดยการใช้เงินคงคลัง 97,200 ล้านบาท การออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 97,115 ล้านบาท และการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 46,545 ล้านบาท
"การขาดดุลดังกล่าวมิได้ส่งผลกระทบต่อฐานะความแข็งแกร่งโดยรวมด้านการคลังอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด ผลการขาดดุลดังกล่าวเป็นเป้าหมายของรัฐบาลในปีงบประมาณ 50 อยู่แล้วว่าจะให้นโยบายการคลังเป็นเครื่องมือหลักเครื่องมือหนึ่งในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจในปี 50 ขยายตัวได้ในระดับไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4" นายสมชัย ระบุในเอกสารเผยแพร่
ฐานะการคลังเดือน ก.ค.50 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 85,111 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 15.7 ซึ่งมีรายได้จากภาษีที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง ได้แก่ ภาษียาสูบ ภาษีสุรา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขณะที่รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 146,555 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 48.6 โดยแบ่งออกเป็นรายจ่ายประจำ 119,439 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 23,344 ล้านบาท และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 3,772 ล้านบาท
"จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลดังกล่าวส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนกรกฎาฯ ขาดดุล 61,444 ล้านบาท ขณะที่ดุลเงินนอกงบประมาณเกินดุล 10,286 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสดขาดดุล 51,157 ล้านบาท" นายสมชัย ระบุ
สำหรับรายได้นำส่งคลังในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 50 มีทั้งสิ้น 1,134,570 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.4 โดยรายได้ที่จัดเก็บเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนในอัตราสูงที่สำคัญ ได้แก่ ภาษียาสูบ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีเบียร์ ภาษีสุรา และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากนี้การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจและรายได้จากส่วนราชการอื่นยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเช่นเดียวกัน
ส่วนรายจ่ายรัฐบาลในช่วงเดียวกันมีจำนวนทั้งสิ้น 1,301,299 ล้านบาท สูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 15.8 โดยแบ่งออกเป็นรายจ่ายปีปัจจุบัน 1,207,996 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.1 คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 77.1 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) และรายจ่ายปีก่อน 93,304 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้วร้อยละ 14.6
ทั้งนี้ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุลรวม 166,729 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน 74,130 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจ่ายเงินเหลื่อมจ่ายจากปีงบประมาณ 49 จำนวน 38,952 ล้านบาท และการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ 15,000 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลัง(ดุลเงินสด) ขาดดุลทั้งสิ้น 240,860 ล้านบาท โดยรัฐบาลชดเชยการขาดดุลด้วยการใช้เงินคงคลัง 97,200 ล้านบาท การออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 97,115 ล้านบาท และการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน 46,545 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ