พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเยี่ยมชมผลงานวิจัย "การพัฒนาต้นแบบรถโดยสารไฟฟ้า โครงการพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าจากรถโดยสารประจำทางใช้แล้วของ ขสมก. (City transit E-buses)" ซึ่งเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาโครงการพัฒนารถโดยสารไฟฟ้าจากรถโดยสารประจำทางใช้แล้วขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการออกแบบและผลิตรถโดยสารไฟฟ้า ที่สามารถจดทะเบียนเพื่อใช้งานกับกรมการขนส่งทางบก ได้อย่างถูกต้อง และพร้อมสำหรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ได้พัฒนาตู้อัดประจุไฟฟ้าจำนวน 2 ตู้ติดตั้งที่เขตการเดินรถที่ 1 ของ ขสมก. เพื่อให้รถสามารถทดลองวิ่งเป็นรถโดยสารประจำทางสาย 543ก (อู่บางเขน-ท่าน้ำนนท์) เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาจนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าใช้ได้เองภายในประเทศ และเป็นการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 60% ขณะเดียวกันยังรับทราบว่าการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไออน ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าเดิมภายในประเทศ ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องพัฒนาให้ได้คุณภาพ โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่บรรจุไฟฟ้าได้นานกว่าที่ใช้อยู่ รองรับการใช้รถไฟฟ้าเต็มระบบในไทย รวมถึงระบบกำจัดแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าของไทย แต่การเปลี่ยนผ่านเองก็ต้องคำนึงถึงประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพราะขีดความสามารถแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องส่งเสริมยานพาหนะของภาครัฐ ซึ่งหากมีงบประมาณก็จะต้องจัดซื้อจัดจ้างให้ถูกต้องในการนำรถไฟฟ้ามาใช้ทั้งระบบ และการเปลี่ยนผ่านต้องเป็นขั้นเป็นตอน และต้องทำการศึกษาว่า รถเก่ามีเท่าไหร่ ผู้มีรายได้น้อยเท่าไหร่ ต้องเปลี่ยนผ่านในกี่ปี ซึ่งมียุทธศาสตร์ตรงนี้อยู่แล้ว ถ้าจะให้เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมดต้องดูความพร้อม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ต้องเดินหน้าสู่การเปลี่ยนผ่านใช้รถไฟฟ้า โดยต้องทำให้ได้มาตรฐาน และเดินหน้ามาตรฐานควบคุมการปล่อยมลภาวะของเครื่องยนต์ใหม่ ยูโร 5 และ ยูโร 6 อย่าให้มีปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุง และอย่าให้เสียง่าย เพราะถ้าหากเสียง่ายก็เสียชื่อ จึงขอให้ปรับระบบให้ดี ให้สามารถวิ่งลากยาวให้ได้ ประกอบให้ดี ขณะที่ชิ้นส่วนต่างๆผลิตในประเทศส่วนใหญ่ใช่หรือไม่ ซึ่งตนอยากให้เป็นชิ้นส่วนที่ผลิตในเมืองไทยทั้งหมด เพื่อได้พัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่ม
"รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าไปด้วยความรวดเร็ว แต่จะต้องไม่กระทบต่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย หลายอย่างเราทำเพื่อประชาชนทั้งนั้น อย่าบอกว่าเราไปให้เฉพาะคนรวยหรือเจ้าของบริษัท ซึ่งไม่ใช่ แต่ทำอย่างไรให้เขามาช่วยเราในการทำให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้และประหยัด ในวันหน้าราคาถูกลง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว