สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาขายปลีกทอง (ทองคำ 96.5%) ในประเทศเช้านี้เมื่อเวลา 09.26 น.ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้บาททองคำละ 200 บาท โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้า บาททองคำละ 28,300 บาท ขายออกบาททองคำละ 28,400 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 27,788.28 บาท ขายออกบาททองคำละ 28,900 บาท
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.43 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยปัจจัยที่หนุนราคาทองคำวานนี้มาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง -0.41% ซึ่งถือเป็นการอ่อนค่าเป็นวันทำการที่ 2 ติดต่อกัน โดยดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากแรงขายกำไรหลังจากแข็งค่าขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้นักลงทุนยังระมัดระวังในการถือครองดอลลาร์ ก่อนที่จะมีการดีเบตครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดนผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ประกอบกับ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ เผยวานนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 101.8 ในเดือนก.ย. ซึ่ง "สูงกว่า" ตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 89.5 แม้ตามปกติแล้วข่าวนี้ควรจะเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่า แต่เนื่องจากช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดอลลาร์เคลื่อนไหวในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ดังนั้น เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาดจึงลดทอนความต้องการดอลลาร์ในฐานะสกุลปลอดภัย
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,899 ดอลลาร์/ออนซ์ในระหว่างวัน ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน จาก ADP, ประมาณการครั้งสุดท้าย GDP ไตรมาส 2/63, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รวมไปถึงจับตาการดีเบตรอบแรกระหว่างผู้ท้าชิงประธานาธิบดี และผลโพลล์หลังการดีเบตซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้ตลาดได้