ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการประชุมครั้งที่ 18/2558 เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.58 ที่กำหนดแนวปฏิบัติในการเผยแพร่บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปสำหรับผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ในระบบเคเบิลทีวี และในการประชุมครั้งที่ 21/2558 เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.58 ที่ให้ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์รัฐสภาไปออกอากาศไว้ในหมายเลขลำดับการให้บริการที่ 10 ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้มีผลย้อนหลังไปนับแต่วันที่ลงมติ
ศาลฯ เห็นว่ามติดังกล่าวไม่สอดคล้องกับประกาศของ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป ลงวันที่ 23 ก.ค.55 ข้อ 6 วรรคสองที่กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก หรือผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง อาจเลือกให้บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป ประเภทกิจการทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้ใช้บริการที่เป็นสมาชิกสามารถรับชมในประเภทหรือหมวดหมู่รายการใด หรือหลายประเภท หลายหมวดหมู่รวมกันก็ได้
และประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 ข้อ 5 วรรคสอง ที่กำหนดขึ้นเพื่อให้การกำหนดหมวดหมู่ การจัดเรียงช่องรายการโทรทัศน์ที่ให้บริการแก่ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้ให้สิทธิแก่ผู้ให้บริการดังกล่าวสามารถเลือกจัดลำดับช่องรายการโทรทัศน์ใด ๆ นอกเหนือจากช่องรายการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปมาให้บริการไว้ใน 10 ลำดับแรก
ทั้งนี้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติในการประชุมครั้งที่ 18/2558 เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 58 ที่กำหนดแนวปฏิบัติในการเผยแพร่บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป สำหรับผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบเคเบิลทีวีทุกราย โดยให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเคร่งครัด และจะต้องเผยแพร่บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปทั้งประเภทบริการสาธารณะและประเภทกิจการทางธุรกิจทั้งหมดทุกช่องให้ครบถ้วน โดยต้องออกอากาศเรียงตามลำดับหมายเลขช่องอย่างต่อเนื่อง
การที่ กสท.ปฏิบัติหน้าที่แทน กสทช.มีมติในการประชุมครั่งที่ 21/2558 เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 58 ให้ผู้บริการโครงการโทรทัศน์นำช่องรายการสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาไปออกอากาศไว้ในช่อง 10 จึงเป็นการมีมติที่ไม่สอดคล้องกับประกาศ กสทช.ส่งผลกระทบต่อสิทธิในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพชองผู้ประกอบกิจการเคเบิ้ลทีวีที่เป็นผู้ฟ้องคดี และผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ที่ใช้คลื่นความถี่ มติดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย