นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือในการพัฒนาและใช้งานแพลตฟอร์มโคเนื้อไทย (e-Catt) ระหว่างกรมปศุสัตว์ กับ บริษัท บีเวอร์เทค จำกัด ว่า พิธีลงนามในครั้งนี้เป็นนโยบายการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่องภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมปศุสัตว์ กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถือเป็นโครงการที่สำคัญ เนื่องจากมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมเพิ่มขีดความสามารถการผลิตภาคปศุสัตว์ เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำจาก ธ.ก.ส.เพื่อนำมาประกอบอาชีพ สร้างอาชีพ สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว อีกทั้งยังกำหนดให้มีการทำประกันภัยโคเนื้อ เพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงในการประกอบอาชีพให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย
"ต้องยอมรับว่าข้อมูลต่างๆ ด้านโคเนื้อของไทยนั้น เกษตรกรยังไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจน ดังนั้นหากจะพัฒนายกระดับให้เกษตรกรมีการเลี้ยงโคที่ดี ได้มาตรฐาน จึงจำเป็นต้องมีข้อมูลเพื่อให้เกษตรกรได้ทราบประเภท พันธุ์วัว จำนวนวัวแต่ละพื้นที่มีมากน้อยแค่ไหน ตลอดจนราคา ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรในการส่งเสริมเลี้ยงวัวให้มีรายได้ในช่วงภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง อีกทั้งเกษตรกรมั่นใจได้ว่าไม่มีความเสี่ยง เพราะได้ร่วมมือกับบริษัทประกันภัยสร้างความมั่นใจให้กับผู้เลี้ยง การลงนามในวันนี้จึงถือเป็นมิติใหม่ของกรมปศุสัตว์ที่จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายประภัตร กล่าว
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มโคเนื้อไทย (e-Catt) ระหว่างกรมปศุสัตว์ และบริษัท บีเวอร์ เทค จำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่องฯ รวมทั้งโครงการอื่นในภาพรวมของกรมปศุสัตว์ เพื่อบริหารจัดการสินเชื่อของ ธ.ก.ส. และบริหารจัดการข้อมูลการประกันภัยของเกษตรกร อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานการผลิตปศุสัตว์ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการผลิตปศุสัตว์ของประเทศให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล 4.0 โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาแพลตฟอร์มโคเนื้อไทย (e-Catt) ตลอดจนอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกร ด้วยการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ (E-Commerce) เพื่อเพิ่มช่องทางการซื้อขายโคเนื้อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่เน้นตลาดนำการผลิตอีกด้วย ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการทำประกันภัยโคเนื้อ
ด้านนายสุรพงษ์ วัฒนานนท์ กรรมการบริษัท บีเวอร์เทค จำกัด กล่าวว่า บริษัท บีเวอร์เทค จำกัด ดำเนินการพัฒนาแพลตฟอร์มโคเนื้อไทย (e-Catt) เพื่อใช้ในการบริหารโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่องฯ เชื่อมโยงการบริหารจัดการสินเชื่อกับ ธ.ก.ส. อีกทั้งยังเชื่อมโยงระบบการบริหารจัดการข้อมูลการประกันภัยของเกษตรกรกับบริษัทประกันภัย ซึ่งถือว่าเป็นการบริหารจัดการในอีกรูปแบบหนึ่ง อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานการผลิตปศุสัตว์
โดยในระยะเวลา 2 ปี นับจากวันที่ลงนามในบันทึกความร่วมมือนี้ บริษัท บีเวอร์เทค จำกัด จะประสานความร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ในการพัฒนา ควบคุม กำกับการใช้แพลตฟอร์มโคเนื้อไทย (e-Catt) ประสานความร่วมมือด้านข้อมูล ข่าวสาร และการสื่อสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแพลตฟอร์มโคเนื้อไทย (e-Catt) เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ และนำผลการวิเคราะห์ไปช่วยเป็นข้อมูลสารสนเทศเพื่อช่วยกำหนดนโยบาย และพัฒนาโครงการต่างๆ นำไปพัฒนาอาชีพการเลี้ยงปศุสัตว์ให้เกิดความยั่งยืนต่อไป