นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง กล่าวว่า การหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์วันนี้จะอยู่ภายใต้ประเด็นนโยบายการเงินที่จะรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน ซึ่งจะเป็นมาตรการระยะกลางและระยะยาว โดยจะไม่มีการพิจารณามาตรการระยะสั้น และจะไม่มีการตัดสินใด ๆ เกี่ยวกับมาตรการสำรอง 30%
"มาตรการ 30% เป็นมาตรการระยะสั้น วันนี้คุยกันเรื่องมาตรการบริหารเงินระยะต่อไป ไม่ได้หารือการยกเลิกมาตรการ 30% และคงไม่มีมาตรการใหม่ ๆ"นายฉลองภพ กล่าวก่อนเข้าร่วมหารือเช้าวันนี้
รมว.คลัง กล่าวว่า การหารือในกรอบวันนี้จะนำไปสู่การหารือในลักษณะการประชุมกลุ่มย่อยต่อไปเพื่อลงลึกว่าแนวทางการบริหารเงินควรจะเป็นอย่างไร เครื่องมือที่จะนำมาใช้ควรเป็นอย่างไร รวมถึงการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ และการรับมือผลกระทบ
ทั้งนี้ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท.จะแถลงผลการหารือในเวลาประมาณ 13.30 น.วันนี้ โดยผู้ที่เข้าร่วมหารือนอกเหนือจากรมว.คลัง รมช.คลัง และ ผู้ว่าการ ธปท. ได้แก่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ รมว.พลังงาน, นายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษาสำนักงานวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) , นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ว่าที่ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.),
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย, นายอนุสรณ์ ธรรมใจ นักวิชาการ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, นายสมภพ มานะรังสรรค์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ในฐานะคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวม และ ตัวแทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)
สำหรับผลการลงประชามติที่ออกมาว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น นายฉลองภพ กล่าวว่า ผลที่ออกมาทำให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ง่ายขึ้น แต่ก็ทำให้เห็นภาพของความแตกแยกทางความคิดในกลุ่มประชาชน เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต่าง ๆ จะต้องทำให้ประชาชนแตกแยกน้อยลง และหากการเมืองมีความราบรื่นบรรยากาศที่ดีทางเศรษฐกิจก็จะกลับมา
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--